นายณัฏฐะ มหัทธนา ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทหารไทย (TMBAM) คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ในปี 37 ที่ระดับ 1,789 จุด ในช่วงไตรมาส 3/61 โดยมีปัจจัยบวกจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีการเติบโตดีขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องไปกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ขณะที่ปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1,700 จุดแล้ว เป็นผลจากกระแสเงินทุนต่างประเทศ (Fund Flow) ที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องตามสภาพคล่องโลกที่มีอยู่สูง
"การปรับตัวขึ้นในรอบแรกของหุ้นไทยมาจากดอกเบี้ยที่ต่ำ ซึ่งเมื่อดอกเบี้ยต่ำก็จะส่งผลให้มูลค่าหุ้นปรับตัวสูงขึ้นได้ รวมถึง Fund Flow ที่ไหลเข้าในหุ้นพร้อมกันกับบอนด์ แต่พอเฟดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ใกล้ๆ 100% โอกาสที่ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น yield พันธบัตรปรับตัวขึ้น แต่ราคาพันธบัตรปรับตัวลง ส่งผลทำให้สภาพคล่องในตลาดลดลง แต่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะเข้ามารองรับ ซึ่งจะเป็นการเข้าสู่เฟสที่ 2 คือ การปรับตัวขึ้นของหุ้นที่มีการเติบโต เช่น หุ้นบิ๊กแคป ,กลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน เป็นต้น แม้ดอกเบี้ยกำลังขึ้น"นายณัฏฐะ กล่าว
ด้านนายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย กล่าวว่า ระดับค่า P/E ของตลาดหุ้นไทย ปัจจุบันยังไม่ถือว่าแพงมากนัก เนื่องจากยังอยู่ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ และกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ทรัพย์สินประเภทผลตอบแทนสูงปรับตัวสูงขึ้นกว่าปกติ เหมาะแก่การลงทุนระยะยาว 5-7 ปี