โบรกฯเชียร์"ซื้อ"WICE มองกำไร H2/60 เดินหน้าทำนิวไฮรับส่งออกสดใส,ซื้อกิจการเพิ่มหนุนแข็งแกร่งขึ้นทุกมิติ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 2, 2017 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) หลังมองกำไรครึ่งหลังปีนี้จะขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ รับผลบวกช่วงฤดูกาลของการส่งออก และ Synergy จากการซื้อกิจการ SEL ซึ่งทำธุรกิจรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ WICE แกร่งขึ้นในทุกมิติ ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพก็จะส่งผลดีต่อการนำเข้าและส่งออกของไทย ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี WICE ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมองโอกาสเข้าซื้อกิจการในรูปแบบเดียวกับ SEL เพิ่มเติมอีก ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตในอนาคตอีก

ราคาหุ้น WICE อยู่ที่ 4.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท (+0.45%) ขณะที่ SET +1.00%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ                     ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เออีซี                         ซื้อ                            4.80
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)             ซื้อ                            5.10
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ               ซื้อ                            5.20
          นายรณกฤต สารินวงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เออีซี กล่าวว่า ทิศทางของกำไรของ WICE ในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยบวกหลักมาจากการรับรู้ผลประกอบการเต็มปีเป็นครั้งแรกของ Sun Express Logistics Pte. Ltd. (SEL) ในงบการเงินรวม หลังซื้อกิจการเมื่อเดือน ส.ค.59 ส่งผลให้ทิศทางกำไรทั้งปี 60 จะสามารถเติบโตได้เท่าตัว หลังจากช่วงครึ่งปีแรกมีกำไรแล้วราว 50 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตแล้วเท่าตัว
          นอกจากนี้ ปัจจุบัน WICE ยังอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการในรูปแบบเดียวกับ SEL เพิ่มเติมอีก โดยคาดว่าจะเป็นบริษัทที่อยู่ในฮ่องกง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตต่อไปในอนาคตอีก
          "ในครึ่งปีหลังยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจัยบวกหลายๆ  ประการ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจจะเพิ่มขึ้น และผลประกอบการไม่เป็นตามเป้าหมาย เรามองว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้น้อย เราจึงยังมีมุมมองเป็นบวก และแนะนำ"ซื้อ"อยู่"นายรณกฤต กล่าว
          บทวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ WICE ในไตรมาส 3/60 ได้รับผลบวกจากช่วงไฮซีซั่นของปี และยังรับรู้การรวมงบการเงินของ SEL เข้ามาเต็มไตรมาสจากไตรมาส 3/59 ที่รับรู้แค่เพียง 1.5 เดือน และยังมีค่าใช้จ่ายจากการเข้าซื้อกิจการราว 4 ล้านบาท ทำให้คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตที่ดีทั้งรายได้และกำไรอยู่ อีกทั้งจากคาดการณ์เศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเดือน มิ.ย.60 ที่ได้ปรับเพิ่มการเติบโตของมูลค่าการส่งออกและนำเข้าในรูปของดอลลาร์สหรัฐขึ้นเป็น 5% และ 10.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากในเดือน มี.ค. 60 ที่เดิมคาดไว้ที่ 2.2% และ 7.2% นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อ WICE
          นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพจะส่งผลดีต่อการนำเข้าและส่งออกของไทย โดยการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่คาดว่าเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพที่ 3.6-3.8% ในช่วงปี 61-65 โดยเฉพาะประเทศขนาดใหญ่ อาจทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับอัตราการเติบโตของมูลค่าการส่งออกและนำเข้าเหมือนในปี 60 จากที่คาดในปี 61 ส่งออกและนำเข้าเติบโต 1.7% และ 5.4%
          ทั้งนี้ ทางฝ่ายปรับคาดการณ์รายได้บริการในปี 60 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1,362 ล้านบาท แต่ปรับลดกำไรสุทธิลงจาก 128 ล้านบาท เป็น 117 ล้านบาท จากอัตรากำไรขั้นต้นครึ่งปีแรกที่ต่ำกว่าคาด และในปี 61 คาดรายได้ที่ 1,602 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 139 ล้านบาท โดยยังไม่รวมการทำ M&A หรือ JV ที่อาจเกิดขึ้นเพื่อยกระดับให้เป็นบริษัทในระดับภูมิภาค และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่จะส่งผลดีในระยะยาว
          ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาหุ้น WICE ยังไม่ได้สะท้อนความเก่งที่กำไรสุทธิกำลังจะขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จากแรงผลักดันของฤดูกาลการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง และ Synergy จากการซื้อกิจการ SEL ที่ทำให้ WICE แกร่งขึ้นในทุกมิติ พร้อมไปด้วยสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมส่งออกยังดีต่อเนื่อง ทั้งตัวเลขส่งออก เศรษฐกิจคู่ค้าหลักฟื้นตัว สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลูกค้าหลักก็มีอุปสงค์หนาแน่น ขณะที่โครงสร้างงบการเงิน ถือว่าดีอัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่กำลังไต่กลับไปที่สูงก่อนการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และ WICE ยังเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้ ไม่ลงทุนสินทรัพย์มาก
          ทั้งนี้ การซื้อกิจการ SEL ซึ่งมีฐานอยู่สิงคโปร์นั้น ไม่ได้ฉุด WICE อย่างที่ตลาดกังวล แต่กลับดันกำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 ให้ขยายตัวแรง 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเกิด Synergy จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)ทันที จนทำให้อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย และภาษี (EBIT margin) ทะลุ 10.4% สูงสุดนับแต่ IPO นอกจากนั้นการพ้นช่วงลงทุนใหญ่ (Capex cycle) ไปแล้ว และการที่ไม่มีหนี้สิน ทำให้คาดช่วงปี 60-63 กำไรสุทธิจะขยายตัวดี 36.1% ต่อปี ขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 179-303 ล้านบาท/ปี ซึ่งน่าจะส่งผ่านให้ผู้ถือหุ้นเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend yield )ได้เฉลี่ย 3.6%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ