โบรกฯเชียร์"ซื้อ" TISCO มองพอร์ตสินเชื่อโตแรงหลังรวมพอร์ต SCBT -มีอัพไซด์จากการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 6, 2017 13:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) มองการที่ธนาคารทิสโก้รับโอนกิจการลูกค้ารายย่อยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) (SCBT) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา นอกจากทำให้พอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 3.9 หมื่นล้านบาทแล้ว ยังได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นรายย่อย ได้แก่ บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และยังมีฐานลูกค้าเงินฝากใหม่ที่สามารถต่อยอดธุรกิจได้ ในอนาคตคาดว่า TISCO น่าจะเพิ่มรายได้ทั้งจากสินเชื่อและค่าธรรมเนียมผ่าน Cross-selling ลูกค้ากลุ่มใหม่นี้ด้วย

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/60 คาดกำไรจะเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและงวดปีก่อน แม้สินเชื่ออาจเติบโตไม่มาก แต่ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ยังได้ผลบวกจากสินเชื่อ High Yield ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจตลาดทุนมีแนวโน้มดีเป็นแรงหนุนหลักในไตรมาสนี้ ขณะที่คุณภาพหนี้ดีต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อาจลดลง

ประมาณการกำไรสุทธิปี 60 เติบโต 18-23% มาที่ 5.9-6.2 พันล้านบาท ส่วนปี 61 คาดกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 6.6-6.8 พันล้านบาท แนวโน้มการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญลดลงเรื่อยๆ

ราคาหุ้น TISCO พักเที่ยงอยู่ที่ 81 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 1.25% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 0.47%

          โบรกเกอร์                       คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ฟินันเซีย ไซรัส                       ซื้อ                   89.00
          ทรีนีตี้                              ซื้อ                   88.00
          เอเซีย พลัส                         ซื้อ                   84.00
          เคทีบี (ประเทศไทย)                  ซื้อ                   84.00
          ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)         ซื้อ                   82.00

นางสาวอุษณีย์ ลิ่วรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส แนะนำ"ซื้อ"หุ้น TISCO ให้ราคาเป้าหมายปี 61 ที่ 84.00 บาท จากเป้าหมายปี 60 ที่ 78.50 บาท ซึ่งขณะนี้ราคาหุ้นในตลาดเกินเป้าหมายปีนี้ไปแล้ว โดยประเด็นลงทุนที่น่าสนใจคือการรับโอนพอร์ตสินเชื่อธุรกิจรายย่อย (Retail Banking) จาก SCBT จำนวน 3.9 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/60 เริ่มโอนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.60 โดยมีทั้งพอร์ตสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรายย่อยบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล โดยพอร์ตสินเชื่อบัตรเครดิตมียอดสูงราว 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับการโอนพอร์ตสินเชื่อจาก SCBT เข้ามาจะทำให้พอร์ตสินเชื่อรวมของ TISCO ในไตรมาส 4/60 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% แต่คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/60 จะยังทรงตัวแม้ว่าจะมีรายได้เข้ามา เพราะมีค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นผลจากการรับพนักงานของ SCBT เพิ่มเข้ามาด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของ TISCO ไม่ค่อยเติบโต สวนทางกับตลาด ขณะที่กลุ่มบมจ.ทุนธนชาต (TCAP) และธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) ที่มีสินเชื่อเช่าซื้อรถเติบโต เนื่องจาก TISCO เป็นรายเดียวไม่เข้าสู่ตลาด เพราะมองการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถมีระยะเวลา 3-4 ปี จึงไม่คุ้มที่จะปล่อยไปช่วงนี้ ขณะที่ TISCO จะเริ่มดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตเป็นครั้งแรก

พร้อมทั้งคาดกำไรสุทธิปี 60 อยู่ที่ 5.91 พันล้านบาท เติบโต 18% จากปีก่อน ซึ่งยังไม่รวมพอร์ตสินเชื่อ SCBT และในปี 61 คาดกำไรสุทธิอยูที่ 6.84 พันล้านบาท เติบโต 15.3% (เฉพาะงบ TISCO)

นางสาวสุนันทา วสะภิญโญกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า จากผลการรับโอนพอร์ตสินเชื่อของ SCBT แม้จะทำให้ TISCO เริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/60 เข้ามาแต่ก็มีค่าใช้จ่ายตามมาด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การรับโอนพอร์ตสินเชื่อดังกล่าว ทำให้พอร์ตสินเชื่อของ TISCO เติบโต 15% และจะมีฐานลูกค้าของ SCBT ทั้งสินเชื่อและเงินฝาก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ TISCO สามารถต่อยอดธุรกิจได้ และเป็นครั้งแรกที่ TISCO จะเข้าสู่ตลาดบัตรเครดิต โดยผลประโยชน์จากการร่วมมือกัน (Synergy) จะเป็น Upside ของ TISCO คาดการณ์กำไรสุทธิปี 60 ที่ 6 พันล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน และในปี 61 คาดกำไรสุทธิที่ 6.67 พันล้านบาทเติบโต 11%

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารทิสโก้ได้รับโอนธุรกิจจาก SCBT แล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้เห็นผลกระทบต่องบการเงินในงวดไตรมาส 4/60 โดยคาดว่าจะเห็นสินเชื่อเติบโตแรง ขณะที่ NIM ดีขึ้นเล็กน้อยจากพอร์ตสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ในเบื้องต้นอัตราผลตอบแทนจากส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) อาจอ่อนตัวเล็กน้อย สำหรับในอนาคตคาดว่าธนาคารจะเพิ่มรายได้ โดยการขยายสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมผ่านการ Cross-selling จากลูกค้ากลุ่มใหม่นี้ด้วย

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/60 คาดว่า TISCO จะมีกำไรอยู่ที่ 1.57 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และ 25% จากงวดปีก่อน โดยสินเชื่ออาจเติบโตไม่มาก แต่ NIM ยังได้ผลบวกจากสินเชื่อ High Yield ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจตลาดทุนมีแนวโน้มดีเป็นแรงหนุนหลักในไตรมาสนี้ ขณะที่คุณภาพหนี้ดีต่อเนื่อง โดยสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) น่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่สินเชื่อยังไม่เติบโต ทำให้ความจำเป็นในการตั้งสำรองหนี้อยู่ในระดับต่ำ จึงคาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ที่ 532 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรปี 60 ของ TISCO ขึ้นเล็กน้อยราว 4% จากประมาณการก่อนหน้า โดยคาดกำไรปี 60 อยู่ที่ 6.17 พันล้านบาท เติบโต 23.4% จากปีก่อน หากกำไรไตรมาส 3/60 ออกมาใกล้เคียงคาดจะทำให้กำไรงวด 9 เดือนคิดเป็นราว 74% ของประมาณการทั้งปี

บล.ทรีนีตี้ เห็นว่าราคาหุ้น TISCO ได้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากนับตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากสะท้อนปัจจัยบวกไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังพอมี Upside หากมองไปถึงปีหน้า โดยได้ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 61 ที่ 88 บาท อิง PBV 1.90 เท่า

ขณะที่ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สินเชื่อในไตรมาส 3/60 ของ TISCO ค่อนข้างทรงตัว โดยปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยที่ 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากสินเชื่อรายใหญ่ในกลุ่มของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก แต่ยังหดตัว 4.4% เมื่อเทียบจากต้นปี เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อจาก New Booking มีเข้ามาน้อย เพราะยังกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของสินทรัพย์

ส่วนการรวมพอร์ตสินเชื่อรายย่อยของ SCBT เข้ามาราว 3.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อบ้าน 2.5 หมื่นล้านบาท สินเชื่อส่วนบุคคล 5 พันล้านบาท สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็กและสินเชื่อบัตรเครดิตอย่างละ 3-4 พันล้านบาท ทำให้คาดว่าพอร์ตสินเชื่อรวมของ TISCO จะเพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะเห็นตัวเลขสินเชื่อโตก้าวกระโดดได้ในช่วงไตรมาส 4/60 คาดว่าการรวมพอร์ตจาก SCBT เข้ามาจะช่วยให้รายได้ค่าธรรมเนียมมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกมาก เนื่องจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นจาก SCBT ราว 4 แสนราย ซึ่งสามารถนำมา Cross-selling ได้

"เรามองเห็นการเติบโตของสินเชื่อ หลังรวมพอร์ตสินเชื่อจาก SCBT ในปีนี้จะโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร รวมถึงแนวโน้มการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญลดลงเรื่อย ๆ จึงแนะนำซื้อ"เคทีบีฯ ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ