บลจ.ไทยพาณิชย์ ครองแชมป์กองทุนส่วนบุคคลส่วนแบ่ง 45% รุกขยายฐานลูกค้าบุคคล-สถาบัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 11, 2017 13:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาพรวมกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ของบริษัทฯ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันว่า ยังมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารงานรวม 353,712.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28,590.63 ล้านบาทจากสิ้นปี 59 ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 325,122.20 ล้านบาท โดยครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 44.94% สูงเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคล (ข้อมูลสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ วันที่ 31 ส.ค.60 )

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเดินนโยบายเชิงรุกในการขยายฐานลูกค้าบุคคลและสถาบันให้มากขึ้น รวมถึงเน้นการหาผลิตภัณฑ์การเงินที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า โดยแนวโน้มกลุ่มลูกค้าบุคคลจะมีความสนใจในการลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ และตราสารทุนภายในประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับต่ำ และวงเงินคุ้มครองเงินฝากจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากที่ทยอยปรับลดลง จึงต้องหาช่องทางในการลงทุนอื่นๆเพื่อให้ชนะเงินเฟ้อ

“ปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถเข้าถึงการลงทุนที่หลากหลายและครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศ (Offshore Investment) และ Structured Product ที่เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงได้ยาก ผ่านทางคู่ค้าต่างประเทศ หรือ บลจ.ระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับ บลจ.ไทยพาณิชย์ อาทิ UBS Asset Management และ JPMorgan Asset Management โดยทีมผู้จัดการกองทุนจะช่วยเฟ้นหากองทุนต่างประเทศที่เป็นดาวเด่นของ บลจ.ต่างประเทศให้ลูกค้าสามารถลงทุนได้ โดยลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ลงทุนในตราสารต่างประเทศผ่านทางกองทุนส่วนบุคคลของเรายังสามารถบริหารความเสี่ยงได้โดยเลือกป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนเงินลงทุน นอกจากนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ในการออกตราสารที่ซับซ้อน ทำให้เราสามารถเสนอผลิตภัณฑ์แบบ exclusive product ให้กับลูกค้าได้ " นายสมิทธ์กล่าว

บริษัทมีการออกแบบพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องและเหมาะสมกับความเสี่ยงและข้อจำกัดในการลงทุนของผู้ลงทุนที่หลากหลายขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้ทั้งกลุ่ม Conservative Investor ที่สามารถทนต่อความเสี่ยงได้ต่ำ หรือยอมรับความเสี่ยงได้ในสัดส่วนเดียวกันกับอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น , กลุ่มModerate Investor สามารถทนต่อความเสี่ยงได้ปานกลาง ยอมรับความเสี่ยงได้ในสัดส่วนเดียวกันกับอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น และกลุ่ม Aggressive Investor ที่สามารถทนต่อความเสี่ยงได้สูง โดยคาดหวังที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงมากขึ้น

ปัจจุบัน บลจ.ไทยพาณิชย์ ประสบความสำเร็จจากการได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าสถาบัน และกลุ่มลูกค้าบุคคลที่มีเงินลงทุนสูง (High Net Worth) ในการให้บริษัทฯเข้ามาช่วยบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของสถาบันนั้น มีทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรอิสระ สถาบันการศึกษา บริษัทเอกชน สหกรณ์ และบริษัทประกัน เป็นต้น โดยล่าสุด ยังได้รับความไว้วางใจจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้เป็นหนึ่งในผู้บริหารกองทุนส่วนบุคคล สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ