มอร์นิ่งสตาร์ฯ เผยกองทุนรวมไทย Q3/60 โตเพียง 1% จากสิ้น Q2/60,เชื่อ Q4/60 เม็ดเงิน LTF-RMF ยังไหลเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 11, 2017 16:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด สรุปภาพรวมกองทุนรวมไตรมาส 3/60 พบว่ากองทุนไทยเติบโตเล็กน้อยจากสิ้นไตรมาส 2/60 เพียง 1% เนื่องจากหลายสินทรัพย์เริ่มผันผวนมากขึ้น ทำให้ยอดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทยมาปิดที่ 4.86 ล้านล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 4.63% นับจากต้นปี

ขณะที่นักลงทุนยังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง โดยกองทุนรวมทั้งอุตสาหกรรมมีเงินไหลเข้าสุทธิในไตรมาส 3/60 ทั้งสิ้น 69,013 ล้านบาท ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีนี้กองทุนรวมไทยมีเงินไหลเข้าสุทธิแล้วทั้งสิ้น 203,579 ล้านบาท ซึ่งทิศทางการลงทุนส่วนใหญ่ของผู้ลงทุนในช่วงปีที่ผ่านมานั้นจะเน้นเรื่องของการลงทุนในต่างประเทศที่ตลอด 9 เดือนแรกของปีนี้มีเม็ดเงินลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศแล้วกว่า 153,323 ล้านบาท ขณะที่ลงทุนสินทรัพย์ภายในประเทศสุทธิเพียง 50,256 ล้าบาท

นอกจากนี้ ยังเน้นลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง ซึ่งเห็นจากเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนประเภท Foreign Investment Bond Fix Term, Short Term Bond, Global Bond (โดยเฉพาะกองทุนจำพวก Global Income), Global Allocation และ Conservative Allocation ขณะที่กองทุนที่เงินไหลออกมากที่สุดในรอบ 9 เดือนนี้ ได้แก่ กองทุนในกลุ่ม High Yield Bond แบบที่มีการกำหนดอายุ (Fix Term Fund) ทั้งที่ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และรวมไปถึงกองทุนในกลุ่มหุ้นต่างประเทศที่ทำผลตอบแทนได้ดี ส่งผลให้ผู้ลงทุนบางส่วนขายทำกำไรออกมา

รวมถึงทิศทางการลงทุนยังเน้นการลงทุนแบบระยะยาวมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศ ที่ปัจจุบันการลงทุนในกองทุนต่างประเทศแบบไม่ได้มีการกำหนดอายุนั้น มีสัดส่วนที่มากกว่าแบบที่กำหนดอายุ ซึ่งการลงทุนในกลุ่มกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ไม่นับรวมประเภท Term Fund ยังคงได้รับความนิยมและยังคงเดินหน้าทำสถิติอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 กองทุนประเภทดังกล่าวเปิดใหม่อีก 15 กองทุน ส่งผลให้ตลอด 9 เดือนนี้กองทุนเปิดใหม่แล้วกว่า 50 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิโตขึ้นจากปลายปีที่แล้ว 50.20% และมีเงินไหลเข้าสุทธิทั้งกลุ่มแล้วกว่า 165,765 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 595,306 ล้านบาท

สำหรับในส่วนของกองทุนหุ้นไทย ซึ่งไม่นับรวมกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่ค่อนข้างคึกคักในช่วงไตรมาสแรกของปี ก่อนที่ความนิยมจะเริ่มแผ่วในช่วงไตรมาส 2 ตามผลตอบแทน และเริ่มกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในไตรมาส 3 ซึ่งมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิ 8,707 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผลตอบแทนที่ดีของตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3 ประกอบกับการออกกองทุนใหม่ในกลุ่มกองทุนรวมธรรมภิบาลไทย (THAI CG) ที่ล่าสุดออกมาแล้ว 7 กองทุน นำเม็ดเงินลงทุนใหม่เข้าอุตสาหกรรมแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท ส่งผลให้ 9 เดือนแรกปีนี้ มีเงินไหลเข้าสุทธิของกองทุนหุ้นไทยแล้วทั้งสิ้น 19,571 ล้านบาท แบ่งเป็น เข้ากองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ (Equity Large Cap) 8,254 ล้านบาท และกองทุนหุ้นไทยขนาดกลางและเล็ก (Equity Small/Mid Cap) 11,315 ล้านบาท

ด้านผลตอบแทนกองทุนรวมประเภทต่าง ๆ ประจำไตรมาส 3 นั้น ถือว่าสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้เป็นอย่างดีในทุกกลุ่มกองทุน ทั้งกลุ่มกองทุนน้ำมัน (Commodities Energy, 7.56%) และกลุ่มหุ้นจีน (China Equity, 7.41%) หรือกลุ่มหุ้นไทยขนาดใหญ่ (Equity Large Cap, 7.38%)

ทั้งนี้ หากดูภาพรวมตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ กลุ่มกองทุนที่สามารถทำผลตอบแทนได้ดีติดอันดับต้น ๆ ล้วนแต่เป็นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศทั้งสิ้น นำโดยกองทุนกลุ่ม China Equity กลุ่ม Emerging Market Equity และกลุ่ม Asia Pacific ex-Japan Equity ที่สามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้สูงถึง 22.67%, 18.68% และ 18.50% ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มหุ้นไทยทั้งกลุ่ม Equity Large Cap และ Equity Small/Mid Cap ที่กลับโดดเด่นในไตรมาส 3 นี้ ส่งผลให้ 9 เดือนแรกทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ที่ 11.23% และ 8.60% ตามลำดับ

สำหรับในช่วงไตรมาส 4/60 การลงทุนทั้ง LTF และ RMF ซึ่งดูจากตัวเลขช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาส่วนใหญ่ยังคงเป็นการขายทำกำไรของผู้ลงทุนทั้ง 2 ประเภท โดยที่ LTF มีเงินไหลออกสุทธิแล้วทั้งสิ้น 19,943 ล้านบาท สูงมากเป็นอันดับ 2 ตลอดกาล คาดว่าเป็นผลมาจากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ส่งผลให้ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความไม่มั่นใจที่จะกลับเข้าไปลงทุนในช่วงตลาดขาขึ้นในขณะนี้ เช่นเดียวกับการลงทุนในกองทุน RMF ที่มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิเพียงเล็กน้อย 274 ล้านบาท ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554

ดังนั้น หากพิจารณาสถานการณ์ในปัจจุบันแล้วเชื่อได้ว่าเม็ดเงินลงทุนใน LTF และ RMF น่าจะรอกลับมาในช่วงโค้งสุดท้ายของปีดังเช่นในอดีต ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วในไตรมาสสุดท้ายจะมีเงินไหลเข้า LTF และ RMF สุทธิอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท และ 14,000 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/60 กองทุน LTF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 345,260 ล้านบาท และ RMF อยู่ที่ 225,927 ล้านบาท


แท็ก กองทุนรวม   LTF   RMF  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ