หุ้น PTTEP ร่วงลง 4.71% มาอยู่ที่ 86.00 บาท ลดลง 4.25 บาท เมื่อเวลา 10.15 น. โดยเปิดตลาดที่ 85.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 86.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 85.00 บาท
วานนี้ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท โดย บริษัท PTTEP Canada Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ได้เข้าลงทุนในโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ ประเทศแคนาดา โดยถือสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 100 และเป็นผู้ดำเนินการนั้น
ปตท.สผ. ได้พิจารณาปรับแผนการพัฒนา ซึ่งรวมถึงการชะลอการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final Investment Decision) ของโครงการออกไป เพื่อให้สอดคล้องกับผลการศึกษาการพัฒนาโครงการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าเชิงพาณิชย์ภายใต้สภาวะอุตสาหกรรมปัจจุบัน
การปรับแผนการพัฒนาดังกล่าวส่งผลให้ในไตรมาส 3/60 ปตท.สผ.จะรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์เป็นจำนวนประมาณ 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานบัญชี ทั้งนี้ การด้อยค่าของสินทรัพย์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อเงินสดในมือและกระแสเงินสดของ ปตท.สผ.แต่อย่างใด
อนึ่ง ปตท.สผ. ยังคงติดตามสภาวะอุตสาหกรรมและสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด รวมถึงการหาแนวทางบริหารจัดการโครงการที่เหมาะสมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทต่อไป
ขณะที่ บทวิเคราะห์ของ บล.ทรีนิตี่ ระบุว่า PTTEP รับรู้ด้อยค่าสินทรัพย์จาก 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 18,150 ล้านบาท ซึ่งผลขาดทุนดังกล่าวจะรับรู้ในไตรมาส 3 ส่งผลให้กำไรไตรมาส 3 คาดว่าจะขาดทุน 10,557 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานปกติไม่รวมผลจากการด้อยค่า เราคาดว่าจะอยู่ที่ 7,290 ล้านบาท ค่อนข้าง Flat เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาสก่อน
แม้การด้อยค่าจะไม่ส่งผลต่อเงินสดของบริษัท แต่สะเทือนถึงความรู้สึกผู้ลงทุน สำหรับผลกระทบที่จะเกิดกับราคาหุ้นของ PTTEP เมื่อคิดเป็นผลกระทบต่อหุ้นจากการด้อยค่าดังกล่าวประมาณ 4.57 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงราคาเป้าหมาย 96 บาท แม้ราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่เราให้ไว้ แต่ในระยะสั้นยังมองว่ามีปัจจัยกดดัน ทั้งในเรื่องความแน่ชัดของการเปิดประมูลสัมปทานใหม่ ข้อพิพาทในอินโดนีเซีย เราจึงแนะนำ Neutral