IRPC ซื้อสูตร Catalyst จากรัสเซียหวังช่วยเพิ่มผลิตเม็ดพลาสติก UHMWPE รองรับการใช้ทดแทนโลหะ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 24, 2017 08:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะผลิตเม็ดพลาสติกประเภท UHMWPE (Ultra high molecular weight Polyethylene) ซึ่งมีคุณสมบัติด้านความแข็งแรงเป็นพิเศษ เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 8 พันตัน/ปี จากปัจจุบันที่ผลิตได้เพียง 3 พันตัน/ปี หลังจากได้ซื้อสูตรการผลิตสารเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) จากศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งในรัสเซีย เพื่อนำมาใช้ในโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก UHMWPE

"รัสเซียเขามีศูนย์วิจัย Catalyst IRPC ก็ป็นคนติดต่อเขา จะไปซื้อสูตรเขามาทำ Catalyst สำหรับผลิต Ultra high molecular weight Polyethylene ซึ่งมีน้ำหนักโมเลกุลสูงจะมาแทนโลหะได้ ที่เรานำมาทำเครื่องช่วยเดินได้ Ultra high molecular weight Polyethylene เป็น plant ใหม่ เราสร้างมา 2 ปีแล้วแต่มีปัญหาเรื่องการพัฒนา Catalyst ไม่พอเพียงที่จะ run plant ทำให้ run ได้แค่ 3 พันตันต่อปี ถ้าได้สูตรนี้มาก็จะทำให้ผลิตได้ 7-8 พันตันต่อปี ส่วนใหญ่ที่นำใช้มากสุดใน battery casing ก็คุยกัน 2 option คือทำที่นี่ หรือจ้างเขาทำ"นายสุกฤตย์ กล่าว

นายสุกฤตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการ BEYOND EVEREST ที่เตรียมจะเสนอรายละเอียดต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในไตรมาส 1/60 จะลดเหลือการลงทุนเพียงส่วนเดียว คือ การก่อสร้างโรงงานพาราไซลีน (PX) ขนาด 9 แสนตัน/ปี มูลค่าลงทุนราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากมีความคุ้มค่ากับการลงทุน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกเทคโนโลยีซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปในสิ้นปีนี้ ก่อนจะนำไปสู่การออกแบบและสรุปรายละเอียดเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทต่อไป

ขณะที่การลงทุนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการขยายกำลังการผลิตโอเลฟินส์ ทั้งเอทิลีน และโพรพิลีน เพิ่มขึ้น 50% หรือได้เอทิลีน 1.5-1.6 แสนตัน/ปี และโพรพิลีน 7-8 หมื่นตัน/ปี จากกำลังการผลิตปัจจุบันโอเลฟินส์ที่กว่า 4 แสนตัน/ปีนั้น จะชะลอออกไปก่อนเพราะมีมูลค่าการลงทุนที่สูงถึง 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทจะยังไม่มีการลงทุนจนกว่าจะสามารถลดต้นทุนการผลิตลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ต่อไป

บริษัทยังยืนยันเป้าหมายกำไรในปี 61 ที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้และเชื่อว่าจะเป็นระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีนี้ เนื่องจากจะไม่มีหยุดซ่อมบำรุงโรงงานเหมือนในปีนี้ ประกอบกับจะรับรู้ผลประโยชน์เต็มปีจากโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) ของโรงกลั่น ที่เดินเครื่องได้ดีขึ้น และการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตัน/ปีที่แล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ ตลอดจนโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ (IRPC-CP) ระยะที่ 2 ขนาด 240 เมกะวัตต์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 49% ก็จะเริ่มเดินเครื่องผลิตในเดือนพ.ย.60

สำหรับสถานการณ์ธุรกิจน้ำมันและปิโตรเคมีในช่วงไตรมาส 4/60 จะยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยในส่วนของค่าการกลั่น (GRM) น่าจะมีโอกาสที่ดีถึงสิ้นปี จากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ประกอบกับราคาน้ำมันดิบน่าจะยังเป็นช่วงขาขึ้น จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียมีความร่วมมือกันที่จะรักษาระดับเสถียรภาพราคาน้ำมัน นอกจากนี้ความกังวลว่าสหรัฐอาจคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่านก็ยังเป็นปัจจัยที่ผลักดันต่อราคาน้ำมันด้วย ด้านธุรกิจปิโตรเคมียังคงทรงตัวในระดับที่ดี ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เติบโต ซึ่งหนุนให้มีความต้องการใช้ปิโตรเคมีมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตามในด้านของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น แม้จะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท แต่ด้วยการที่บริษัทมีการบริหารจัดการที่เหมาะสมทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากส่วนนี้มากนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ