โกลเบล็ก มองหุ้นไทยเด้งรับราคาน้ำมันพุ่งให้กรอบ 1,670-1,720 จุด แนะสะสมหุ้นโรงไฟฟ้า-ท่องเที่ยว

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 1, 2017 11:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันยืนที่ระดับสูงจากการคาดการณ์แนวโน้มกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) สนับสนุนขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีกจนถึงสิ้นปีหน้า และสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลง

รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปีที่ปรับดีขึ้น โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของไทยในเดือน ต.ค.60 ว่าขยายตัว 4.5-5.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาวะการส่งออกในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวดี ส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมทบทวนประมาณการเศรษฐกิจทั้งปีเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้

ส่วนปัจจัยที่มีผลลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะนี้มาจาก Fund Flow ผันผวนมีทั้ง Net Buy และ Net Sell สลับกัน ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติ Net Sell เกือบ 6.9 พันล้านบาท และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะเริ่มทยอยปรับลดงบดุล 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนจากระดับปัจจุบัน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในการประชุมรอบนี้

ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 1 พ.ย.จีนจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ต.ค.สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ต.ค.และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เช้าวันที่ 2 พ.ย. เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. รวมถึงวันที่ 2 พ.ย. สหภาพยุโรป (อียู) จะเปิดเผย PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดประชุมนโยบายการเงิน และในวันที่ 3 พ.ย. คาดว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะเปิดเผยชื่อประธานเธนาคารกลางสหรัฐ (ฟด) คนใหม่ ขณะที่สหรัฐฯจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. และจีนจะเปิดเผย PMI ภาคบริการเดือนต.ค.

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยืนในระดับสูง และภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงปลายปีที่ปรับดีขึ้น อย่างไรก็ดี คาดการณ์เกี่ยวกับการทยอยปรับลดงบดุลของเฟดและ Fund Flow ที่ผันผวนเป็นปัจจัยกดดันดัชนีในสัปดาห์นี้ ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,670-1,720 จุด

แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ TPIPP และ BPP ที่มีประเด็นบวกจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังหนุนผลประกอบการเติบโต และกลุ่มท่องเที่ยว แนะนำ CENTEL และ ERW ที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นลูกค้าหลัก

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า จากการที่ญี่ปุ่นได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม และ BoE เริ่มกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง หลังจากคงไว้ที่ระดับต่ำสุดมาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี ส่วนระดับดอกเบี้ยของเฟด ตลาดคาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากจะมีการประกาศผู้เข้ารับตำแหน่งประธานเฟดต่อจากเจเน็ต เยลเลน ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย. ซึ่งไม่ว่าจะได้ใครมารับช่วงต่อ ทิศทางนโยบายจะยังคงเดิม ทั้งอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและปรับลดขนาดงบดุล ต่างกันเพียงความถี่ในการปรับขึ้นว่าเร็วช้ากว่ากันแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตลาดจับตาก็คือ ผู้ถูกเสนอชื่อแต่ละคนมีมุมมองอย่างไรต่อการผ่อนคลายมาตรการที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินตลาดทุน ดังนั้น หากประธานเฟดคนใหม่เป็นนายเจอโรม พาวเวลล์ อาจส่งผลดีต่อราคาทองคำในฐานะที่เป็นแหล่งพักของเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้น ซึ่งเหมาะแก่การซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่ถ้าเป็นคนอื่นควรรอให้เห็นจุดจบของราคาทองขาลงก่อนจะเข้าซื้อเพื่อเล่นรอบ

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กจึงคงคำแนะนำให้ผู้ลงทุนจับจังหวะ trading ในช่วงระหว่างกรอบรับหลักที่ 1,240–1,260 ดอลลาร์ กับแนวต้านจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ