(เพิ่มเติม) THMUI เคาะราคา IPO ที่ 2.55 บ./หุ้น เสนอขาย 15-17 พ.ย.เข้าเทรด 23 พ.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 14, 2017 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น (THMUI) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 97.07 ล้านหุ้น คิดเป็น 28.55% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคาหุ้นละ 2.55 บาท จากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย.60 คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 23 พ.ย.60 ในหมวดธุรกิจบริการ

วัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 147.53 ล้านบาทในช่วงปี 60-62, ชำระคืนตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange) 60 ล้านบาทภายในปี 60, ซื้อเครื่องทดสอบแรงดึงขนาด 400 ตัน มูลค่า 10 ล้านบาทภายในปี 61 และโครงการก่อสร้างโกดังสินค้า 30 ล้านบาทในช่วงปี 61-62

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ของ THMUI เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้น IPO ของ THMUI จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยบริษัทจะร่วมกับผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 2 แห่ง ประกอบด้วย บล.เอเชีย เวลท์ และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส

“การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 2.55 บาทต่อหุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสม ประเมินจากแผนธุรกิจ และความสามารถในการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตของบริษัทฯ รวมถึงการประเมินมูลค่าหุ้นของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์"นายรัฐชัย กล่าว

ทั้งนี้ THMUI กำหนดเสนอขายหุ้น IPO ต่อบุคคลทั่วไป 72,802,500 หุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ 14,560,500 หุ้น เสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ 9,707,000 หุ้น

นายรัฐชัย กล่าวว่า ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจจัดจำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วที่มีคุณภาพสูง จะสามารถขยายการเติบโตและมีเงินทุนที่เพียงพอต่อการเพิ่มสินค้าและทีมบริการที่จะสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่ออกมาเป็นจำนวนมากของภาครัฐบาล และการลงทุนของภาคเอกชน ทำให้ลวดสลิงเป็นอีกกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการใช้ในแทบทุกอุตสาหกรรม และมีการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ทำให้ THMUI เป็นอีกหนึ่งบริษัทจดทะเบียนที่น่าจับตามอง และมีแนวโน้มการเติบโตสูงตามการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ

นายทชากร ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THMUI กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ราว 247.53 ล้านบาทไปใช้เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 147.53 ล้านบาท ซื้อเครื่องทดสอบแรงดึงขนาดใหญ่ 10 ล้านบาท ระยะเวลาการใช้เงินภายในปี 2561 และโครงการก่อสร้างโกดังสินค้า 30 ล้านบาท ระหว่างปี 61-62 และ จ่ายคืนตั๋ว B/E 60 ล้านบาทภายในปี 60

THMUI เป็นผู้จำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วที่มีคุณภาพสูง จากแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก และเป็นคู่ค้ากับผู้ผลิตรายสำคัญมาเป็นระยะเวลายาวนาน ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทยให้แก่ลูกค้าบางกลุ่ม ลูกค้าจึงมั่นใจในสินค้าและบริการของบริษัทฯ

นอกจากนี้ ลูกค้าของบริษัทฯ อยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย จากข้อมูลงวด 9 เดือนแรกของปี 60 กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มยานยนต์ กลุ่มเหล็ก เป็นต้น มีสัดส่วนรายได้ 30.57% กลุ่มน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ 17.24% กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง 9.47% และกลุ่มท่าเรือ 6.58% ของรายได้จากการขายทั้งหมด ลดความเสี่ยงในเรื่องจากพึ่งพิงลูกค้ารายใดเป็นพิเศษ

บริษัทไม่เน้นการแข่งขันด้านราคา เพราะกลุ่มลูกค้าเน้นสินค้าที่มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และมีใบรับรองสินค้า ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทพยายามคัดสรรสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า และสร้างมาตรฐานให้อุตสาหกรรมลวดสลิงไทย เพื่อความปลอดภัยในการทำงานและลดความสูญเสียได้ บริษัทฯ จึงเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดทุน จึงเข้ามาระดมทุนในตลาด mai หวังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด สนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในระยะยาว

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโตอย่างน่าประทับใจ บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 310.61 ล้านบาท เติบโต 25.33% จากงวดเดียวกันของปี 59 ซึ่งเท่ากับ 247.83 ล้านบาท กำไรขั้นต้นเติบโตขึ้นอยู่ที่102.82 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 24.69 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน 5.19 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 38.90% และอัตรากำไรสุทธิ 7.90% เนื่องจาก บริษัทสามารถนำเสนอสินค้าและบริการไปยังกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มขึ้นตามกลยุทธ์ที่วางไว้ เชื่อว่าจะตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน และความสามารถในการบริหารและจัดการที่ดีเยี่ยมได้

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย งวดปี 57-59 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 370.98 ล้านบาท 381.12 ล้านบาท และ 356.74 ล้านบาทตามลำดับ รายได้หลักมาจากการจัดจำหน่ายลวดสลิงและชุดประกอบกว่า 60% ของรายได้จากการขายและบริการ ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 179.01 ล้านบาท 160.17 ล้านบาท และ 146.17 ล้านบาทตามลำดับ กำไรสุทธิอยู่ที่ 7.79 ล้านบาท 16.30 ล้านบาท และ 18.92 ล้านบาท ตามลำดับ และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 2.08%, 4.25% และ 5.29% เป็นผลจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ลดลง สะท้อนการบริหารจัดการภายในได้เป็นอย่างดี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ