EPG อยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการ 4-5 ดีล, คงเป้ารายได้ปีนี้ 1 หมื่นลบ. คาด H2 สูงกว่า H1

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 20, 2017 11:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ะหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) อยู่ทั้งหมด 4-5 ราย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทมีเงินทุนพร้อมที่จะลงทุนมากเพียงพอ โดยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอจัดอันดับความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ บริษัทยังมีเงินสดในมือราว 400-500 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.29 เท่า

ทั้งนี้ แม้ว่าจะไม่มีการเข้าซื้อกิจการ บริษัทก็ยังสามารถเติบโตได้ในงวด 3 ปีนี้ (60/61-62/63) ประมาณ 30-40% หรือไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี เนื่องจากบริษัทยังมีกำลังการผลิตเหลืออยู่ 30-40% สามารถรองรับการเติบโตได้ ซึ่งหากมีการเติบโตมากกว่าที่คาดไว้บริษัทก็ยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ทันที

"ตอนนี้เรามีการเจรจาเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง แต่เรายังไม่ได้รีบสรุป เพราะต้องเป็นการเข้ามาเสริมการเติบโตที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากเรายังไม่เข้าซื้อกิจการใดๆ เรายังสามารถการเติบโตได้ถึง 3-4% แน่นอน"นายเฉลียว กล่าว

สำหรับทิศทางผลประกอบการครึ่งหลังของงวดปี 60/61 (ต.ค.60-มี.ค.61) จะดีกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน โดยคาดว่ารายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะสูงขึ้นขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มี รายได้จากการขายทั้งสิ้น 4,812.3 ล้านบาท จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และแรงกระตุ้นให้จับจ่ายใช้สอยของรัฐบาล รวมถึง mood&tone ของประชาชนเริ่มดีขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น AEROKLAS 45% AEROFLEX 31% และ EPP 24% ทั้งนี้ บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10,000 ล้านบาท

ธุรกิจของบริษัทก็จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ โดยธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็นภายใต้แบรนด์ Aeroflex อยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริกาโดยใช้เครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูง และเร่งทำการตลาดเพิ่มเติมในกลุ่มอาเซียน อาทิ ประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย รวมถึงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากผลิตภัณฑ์ประเภทฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา (Aero-roof) ที่มีกระแสตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้า Wholesaler และลูกค้าโครงการ

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดรับกับ Lifestyle ของผู้บริโภค สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ร่วมพัฒนากับค่ายรถยนต์จะเริ่มทยอยออกสู่ตลาด ขณะที่ธุรกิจ TJM ในออสเตรเลีย ได้ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์โดยนำระบบซอฟแวร์ Supplier Partnership Program (SPP) มาใช้ในการบริหารจัดการ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ เช่น Pro Locker เป็นต้นปัจจุบัน TJM มี Corporate Store 1 แห่ง ที่ Perth ออสเตรเลีย และมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 1 แห่ง ที่เมือง Brisbane ออสเตรเลีย ในปีนี้

ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มีความพร้อมด้านกำลังการผลิตและเทคโนโลยีการผลิต รองรับความต้องการของตลาด แต่เนื่องจากการบริโภคสินค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายในประเทศยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจึงได้ปรับกลยุทธ์เน้นการทำตลาดของแบรนด์ “eici" เพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าประเภททั่วไป และขยายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกล่องใส่อาหาร รวมถึงเน้นขยายตลาดกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

สำหรับ บริษัท TJM Producr PTY Ltd (TJM) ซึ่งทำธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์ 4WD ในออสเตรเลีย เชื่อว่ายอดขายจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯเตรียมที่จะขยายร้านตัวแทนจำหน่ายและร้านจำหน่ายสินค้าที่เป็นของบริษัทฯรวมให้ครบ 100 แห่งภายใน 2 ปี จากปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 63 แห่ง แบ่งเป็น ร้านตัวแทนจำหน่าย 2 แห่ง และร้านที่เป็นของบริษัทฯเอง 2 แห่ง

ทั้งนี้บริษัทฯยังได้วางงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ลงทุนเครื่องจักรอัตโนมัติในประเทศสหรัฐ และที่เหลืออีกราว 400 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตกลุ่มยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนของปี 60/61 (เม.ย.-ก.ย.60) บริษัทมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 4,812.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% มีกำไรสุทธิ 578.4 ล้านบาท ลดลง 25.6% จากงวด 6 เดือนของปีก่อนหน้า โดยไตรมาสที่ 2 ปี 60/61 (ก.ค.60 – ก.ย.60) บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% และมีกำไรสุทธิ 291.9 ล้านบาท ลดลง 26.4%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ