PTT เตรียมยื่นประมูลแหล่งปิโตรเลียม 1 แห่งปลายปีนี้คาดรู้ผลต้นปี 61,บันทึกกำไรขายหุ้น SPRC ใน Q4/60

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 20, 2017 12:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า ปตท.เตรียมยื่นเสนอประมูลซื้อกิจการโครงการปิโตรเลียมขั้นต้น (Upstrem) 1 แห่งในช่วงปลายปีนี้ และคาดว่าจะรู้ผลได้ในช่วงต้นปี 61 ขณะที่การขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 5.41% ในบมจ.สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เมื่อสัปดาห์ก่อน คิดเป็นมูลค่าราว 3.7 พันล้านบาทนั้น คาดว่าจะบันทึกกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าวได้ในไตรมาส 4/60

“ไม่แน่ใจว่าจะมีกำไรระดับเท่าไหร่ แต่ก็ base on ต้นทุนราคาในช่วงที่เคยขายหุ้นพร้อมกับการทำ IPO ของ SPRC ซึ่งคาดว่าจะบันทึกกำไรเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้"นายวิรัตน์ กล่าว

ด้านนายวิศาล ชวลิตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดต่างประเทศ ของ PTT กล่าวว่า ปตท.ยังคงนำธุรกิจน้ำมันเดินหน้ารุกตลาดอาเซียนต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังที่จะสร้างแบรนด์ปตท.ให้เป็นที่รู้จักและเป็น region top brand โดยตามแผน 5 ปี จะมีสถานีบริการน้ำมันในอาเซียน 535 แห่ง จาก 190 แห่งในปัจจุบัน และร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน 400 สาขา จาก 120 สาขาในปัจจุบัน และร้านจิฟฟี่ 120 สาขา จาก 30 สาขาในปัจจุบัน

ปัจจุบันปตท.มีฐานการทำธุรกิจน้ำมันในอาเซียน อยู่ 4 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ,ลาว ,กัมพูชา และเมียนมา โดยการขยายเข้าไปตลาดลาว และกัมพูชา เพราะแบรนด์ของปตท.เป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยม ขณะที่ตลาดฟิลิปปินส์ ก็ถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีโอกาสเติบโต ส่วนในเมียนมา ปัจจุบันไม่ได้เข้าไปลงทุนเอง เพราะยังติดข้อกฎหมาย แต่ก็ได้ทำตลาดด้วยการขายน้ำมันให้ลูกค้าโดยใช้แบรนด์ปตท.ดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม ปตท.อยู่ระหว่างการศึกษาการร่วมลงทุนกับพันธมิตรในเมียนมา เพื่อทำธุรกิจน้ำมัน หลังจากล่าสุดได้รับทราบว่าเมียนมาเปิดโอกาสให้เข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นได้เท่านั้น โดยยังไม่อนุญาตให้เข้าลงทุนทั้ง 100% ทำให้ปตท.จะเข้าไปร่วมลงทุนและมีโอกาสลงทุนสถานีบริการน้ำมันได้เอง และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาสร้างคลังน้ำมันในบริเวณพื้นที่ติลาวา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีหน้า

นอกจากนี้ปตท.ยังศึกษาการตั้งคลังน้ำมันในประเทศฟิลิปปินส์ อีก 1 แห่ง จากปัจจุบันที่เป็นเพียงการเช่าคลังน้ำมันอยู่ 2 แห่ง ทางตอนเหนือของกรุงมะลิลา ขนาด 90 ล้านลิตร และ 20 ล้านลิตร ซึ่งการสร้างคลังน้ำมันเป็นของตนเองในครั้งนี้คาดว่าจะอยู่พื้นที่ตอนใต้ เพื่อที่จะแก้ปัญหาหากพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งประสบปัญหาขาดแคลนอาจอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยในประเทศฟิลิปปินส์ โดยคาดว่าจะสรุปผลได้ในปีหน้า และใช้เวลาก่อสร้างราว 1-2 ปี

“เราอยากจะเข้าไปในทุกตลาดของอาเซียน โดยเฉพาะในส่วนของ oil แต่บางประเทศยังไม่เปิดโอกาส อย่างมาเลเซีย เวียดนาม บูรไน ยังไม่เปิดเสรีให้ต่างชาติเข้าไปทำน้ำมันได้ เราก็เอาในส่วนของ non-oil เข้าไปก่อน ตอนนี้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเราเข้าไปในทุกตลาดของอาเซียนได้แล้ว ส่วนคาเฟ่ อเมซอน ร้านค้าปลีก ก็ทยอยเข้าไป"นายวิศาล กล่าว

นายวิศาล กล่าวว่า ขณะนี้ปตท.อยู่ระหว่างศึกษาการเข้าไปทำตลาดร้านคาเฟ่ อเมซอน ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม โดยคาดว่าจะเข้าจะเห็นความชัดเจนได้ในปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ