บริษัท มะลิ กรุ๊ป 1962 จำกัด และบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจการทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมภายใต้แบรนด์ต่างๆ อาทิ มะลิ เบิร์ดวิงส์ ออร์คิด พิมส์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่า บริษัท สุนทรเมทัล อินดัสทรี้ส์ จำกัด ผู้ผลิตกระป๋องโลหะฯ เป็นโจทย์ยื่นฟ้องบริษัททั้ง 2 ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกันในฐานความผิด“ผิดสัญญาซื้อขาย, เรียกให้ชำระหนี้,เรียกค่าเสียหาย" รวม 3 คดี เป็นเงินรวม 469,511,258 บาท ขณะที่มีธนาคารกสิกรไทย (KBANK) อยู่ในฐานะผู้สนับสนุนเงินกู้รายใหญ่ของกลุ่มธุรกิจนมมะลินั้น
ผู้บริหาร มะลิ กรุ๊ปฯ และ อุตสาหกรรมนมไทยฯ ระบุงว่า ข้อพิพาทกับ สุนทรเมทัลฯ ไม่ได้เป็นกรณีที่ บริษัท สุนทรเมทัลฯ ฟ้องเรียกร้องให้ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทยฯ และบริษัทในเครือต้องรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นกรณีที่บริษัท อุตสาหกรรมนมไทยฯ และบริษัทในเครือได้ฟ้องแย้งเรียกร้องค่าเสียหายจาก สุนทรเมทัลฯ และบริษัทในเครือ ทั้ง 3 คดี รวมเป็นเงินกว่า 1,755 ล้านบาท
สาเหตุสืบเนื่องจากกระป๋องและฝากระป๋องที่ สุนทรเมทัล ส่งมอบให้แก่ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทยฯ และบริษัทในเครือมีการใช้วัตถุดิบไม่มีคุณภาพ เป็นวัตถุดิบที่ไม่ได้ตกลง และไม่เป็นที่ยอมรับ จากบริษัท อุตสาหกรรมนมไทยฯ และบริษัทในเครือ ซึ่งการละเลยต่อการควบคุมคุณภาพทำให้ผลิตภัณฑ์นมที่ใช้กระป๋องและฝากระป๋องที่ผลิตจาก สุนทรเมทัลฯ ไม่สามารถนำไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้าได้ โดยเบื้องต้นมีจำนวนกว่า 5 แสนกระป๋อง เท่ากับเป็นการผิดสัญญาทางการค้า อีกทั้งยังมีการกระทำที่ถือว่าผิดสัญญาในข้อสาระสำคัญอื่นๆ อีกด้วย
อนึ่ง ต่อกรณีที่ระบุว่า KBANK อาจได้รับผลกระทบหากมีการผิดนัดชำระหนี้ทำให้อาจจะต้องพิจารณาการตั้งสำรองในวงเงินที่ปล่อยสินเชื่อนั้น ข้อเท็จจริงได้รับการยืนยันว่า บริษัท อุตสาหกรรมนมไทยฯ และบริษัทในเครือมีสภาพคล่องทางการเงินดี มีฐานะทางการเงินแข็งแรงและฐานลูกค้ามั่นคง มีการชำระหนี้ให้กับ KBANK ตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญามาโดยตลอด ไม่มีการผิดนัดชำระหนี้
พร้อมยืนยันว่าบริษัทฯได้รับการจัดชั้นเป็น "ลูกหนี้ชั้นดี" ของสถาบันการเงินที่สนับสนุนด้านการงานให้แก่บริษัทฯ ดังนั้นคดีความที่มีการฟ้องร้องจึงไม่ส่งผลกระทบต่อธนาคารและบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด กับบริษัทในเครือแต่อย่างใด