ARROW ตั้งเป้ารายได้ปี 61 โต 10-15% หลังตุน Backlog 680 ลบ.,ยื่นประมูลงานใหม่กว่า 300 ลบ. หวังได้งานราว 70%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 4, 2017 15:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 61 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% หลังปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) 680 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ ขณะเดียวกันล่าสุดบริษัทฯได้รับงานสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 เข้ามาเพิ่มอีก 120 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 61 เป็นต้นไป นอกจากนี้บริษัทฯยังอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ รถไฟทางคู่ และงานของภาคเอกชนอื่น ๆ อีก มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯคาดหวังว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 70% ของมูลค่างานทั้งหมด

สำหรับงานปี 61 จะมาจากภาครัฐมากขึ้น หลังจะมีโครงการต่าง ๆ ทยอยออกมามากขึ้นกว่าปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังคงรับงานภาคเอกชนต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิต 3 เท่า สำหรับธุรกิจท่อร้อยสายไฟใต้ดิน โดยใช้งบลงทุน 28 ล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/61 ส่วนงานท่อหุ้มเหล็กเสริมในพื้น (Post tension) บริษัทได้ติดตั้งเครื่องจักร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 3/61 โดยใช้งบลงทุน 15 ล้านบาท โดยงานท่อหุ้มเหล็กเสริมในพื้นตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 3 ปี หรือ ภายในปี 63 จะมีรายได้ 300 ล้านบาท หรือ คิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้รวม

"ภาพรวมผลประกอบการในปี 60 เรายอมรับว่ารายได้จะพลาดเป้าหมายไปบ้าง แต่ยังเติบโตได้ในระดับ 10% ส่วนปีหน้าทิศทางต่าง ๆ ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน ที่มีทิศทางออกมามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายธานินทร์ กล่าว

นายธานินทร์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 คาดว่าจะออกมาอยู่ในทิศทางที่ดีเมื่อเทียบกับทุกไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งจะมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างสม่ำเสมอจากงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังเติบโต ประกอบกับทยอยรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ อุปกรณ์ในการก่อสร้างระบบ Post tension ซึ่งกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 20%

ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงมีนโยบายเพิ่มยอดขายเพื่อให้ผลิตสินค้าได้เต็มกำลังการผลิต พร้อมปรับราคาขายสินค้าและบริการให้เป็นไปตามราคาตลาดควบคู่กับการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 25-30% ส่วนรายได้รักษาการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อปี

"เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกของผลประกอบการไตรมาส 4/60 เนื่องจากเป็นช่วงที่ปริมาณงานบริการรับเหมาก่อสร้างเข้ามาจำนวนมาก จากการที่ภาครัฐเร่งผลักดันให้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโครงการรถไฟฟ้า และการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าจากอากาศลงใต้ดิน ประกอบกับทยอยรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยซับพอร์ตธุรกิจเดิมที่บริษัทดำเนินการอยู่ ซึ่งถือเป็นรายได้เสริมที่ช่วยหนุนผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงมองว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด"นายธานินทร์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ