(เพิ่มเติม) JWD วางเป้าสยายปีกคลุม 9 ชาติอาเซียนหวังสร้างสัดส่วนรายได้ตปท.ไม่ต่ำกว่า 25% ภายในปี 63

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 12, 2017 14:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) วางเป้าหมายภายในปี 63 สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 25% ปัจจุบันอยู่ในระดับ 8-10% เนื่องจากบริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจให้ครอบคลุม 9 ประเทศในอาเซียน ยกเว้นบรูไน ซึ่งขณะนี้มีแล้ว 5 ประเทศ คือ ไทย กัมพูชา เมียนมา ลาว และล่าสุด คือ อินโดนีเซีย ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมที่ 5 พันล้านบาท

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า บริษัทมองโอกาสขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายเป็นผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน

"เราจะมองโอกาสขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง และภายในปี 63 เราวางแผนขยายในประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะมีฐานธุรกิจโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนครบ 9 ประเทศ (ยกเว้นประเทศบรูไน) เน้นสร้างเครือข่ายและเชื่อมต่อการให้บริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้โมเดลธุรกิจในรูปแบบ Total Solutions ที่มีบริการอย่างครบวงจร" นายชวนินทร์ กล่าว

โดยล่าสุด JWD Asia Holding Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือในสิงคโปร์ที่ JWD ถือหุ้น 99.98% เข้าร่วมทุนในสัดส่วน 49: 51 กับบริษัท PT. Samudera Sarana Logistik ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ PT. Samudera Indonesia Tbk สายการเดินเรือรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย จัดตั้งบริษัท ‘PT. Samudera JWD Logistics’ ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 7.8 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 26 ล้านบาท เพื่อเป็นบริษัทโฮลดิ้งเข้าลงทุนและถือหุ้นในธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรในอินโดนีเซีย โดยเน้นการลงทุน 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจห้องเย็น ธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ และธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย

ทั้งนี้ JWD คาดว่าจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนในอินโดนีเซียตั้งแต่เดือน ม.ค.61 และบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีหน้าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปี 60 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 2,500 ล้านบาท โดยเห็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 60 และมองว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเริ่มมีการรับรู้กำไรจากบริษัทย่อยที่เข้าไปร่วมทุนช่วงก่อนหน้านี้

นายธเนศ พิริย์โยธินกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ JWD กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทร่วมทุนในอินโดนีเซีย จะใช้เงินลงทุนประมาณ 7.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 260 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น 67% ในบริษัท Adib Cold Logistics (ACL) ในเครือ Adib Group โดย ACL เป็นบริษัทท้องถิ่นที่ดำเนินธุรกิจคลังห้องเย็นและขนส่งในเมืองจาการ์ต้า มีความจุสินค้าประมาณ 7,000 พาเล็ต ปัจจุบันมีอัตราการใช้พื้นที่คลังห้องเย็นประมาณ 60% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 80-90% ในเดือน มี.ค.61 หลังจากมีลูกค้ารายใหม่เตรียมเช่าพื้นที่เก็บสินค้า

การเข้าลงทุนครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการลงทุนทางอ้อมของ JWD ผ่านบริษัทร่วมทุน โดยคาดการณ์บริษัท Adib Cold Logistics จะมีรายได้ในปีนี้ประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 140 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิประมาณกว่า 10%

นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุนก่อสร้างคลังห้องเย็นแห่งใหม่และเพิ่มจำนวนรถขนส่งในกรุงจาการ์ต้า และมีแผนขยายการลงทุนคลังห้องเย็นในเมืองอื่น ๆ เช่น เมืองสุราบายา, เมดาน เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ให้บริการคลังห้องเย็นและโลจิสติกส์ไม่เพียงพอกับความต้องการ

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาผู้ประกอบการทางเรือ ห้องเย็น การขนส่งภาคพื้นดิน และคลังสินค้า ในประเทศเวียดนาม โดยมองทั้งการเข้าซื้อกิจการหรือร่วมลงทุนในบริษัทที่สร้างผลกำไรได้แล้ว โดยเบื้องต้นวางงบลงทุนไว้ราว 300-500 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 61 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้รวม 1-1.5 พันล้านบาท โดยจะใช้ในการเสริมประสิทธิภาพในแต่ละธุรกิจ รวมถึงใช้เป็นงบลงทุนเข้าซื้อกิจการ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการระดมทุนผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาทที่ขณะนี้ยื่นขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้วคาดหวังจะให้เข้าซื้อขายทันในปีนี้ รวมถึงมีเงินจากผลการดำเนินงานปีละ 700-800 ล้านบาท และมีวงเงินหุ้นกู้ที่ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นไว้อีก 2.5 พันล้านบาท

“JWD วางเป้าสร้างเครือข่าย Food & Cold Supply Chain แห่งอาเซียน ครอบคลุมบริการเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่บริหารคลังห้องเย็น ขนส่ง ขนส่งข้ามแดน Freight Forwarder บริการเสริมอื่น ๆ รวมไปถึง การจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบให้กับลูกค้า"นายธเนศ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ