KTAM เปิดขายกองทุนผสม KT-25/75 Class A เพิ่มโอกาสผลตอบแทนมากกว่าตราสารหนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 13, 2017 14:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายเพิ่มใน Class A ประเภทสะสมมูลค่า ( KT-25/75 Class A) เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน ได้เลือกลงทุนตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

ก่อนหน้านี้ บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย คอนเซอเวทีฟ 25/75 ( KT-25/75 Class R) เป็นอย่างสูง โดยเฉพาะการจำหน่ายผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากมายส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ประมาณ 1,700 ล้านบาท ซึ่งกองทุนเปิดจำหน่ายครั้งแรกในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

กองทุน KT-25/75 Class A มีนโยบายลงทุนในหุ้นในประเทศไม่เกิน 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี ทั้งนี้ สัดส่วนการลงทุนดังกล่าว ช่วยรักษาระดับความสม่ำเสมอของผลตอบแทน และเพิ่มศักยภาพการเติบโตของผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นสูงสุดไม่เกิน 25%โดยไม่มีข้อจำกัดถึงขนาดและประเภทหุ้นที่สามารถลงทุนได้ เพื่อมุ่งเน้นเป้าหมายการสร้างผลตอบแทนที่ดี กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ให้กับนักลงทุนได้เลือกลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 179 ( KTFF179 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2560 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ประกอบด้วย เงินฝากประจำ Bank of china, Agricultural Bank of China, Abu Dhabi Commercial Bank PJSC บัตรเงินฝาก China Construction Bank , Bank of Communications และ Industrial and Commercial Bank of China Ltd. ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 19% ยกเว้น Abu Dhabi Commercial Bank PJSC ในสัดส่วน5 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุนประมาณ 1.35% ต่อปี

ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน3 (KTSIV6M3) เป็นกองทุนประเภท Roll Over อายุ 6 เดือน เสนอขายถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2560 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประกอบด้วย ตั๋วแลกเงิน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด เงินฝากประจำ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 18% ตั๋วแลกเงิน บริษัท ราชธานีลิสชิ่ง จำกัด (มหาชน) 15% และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 49% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ1.15%ต่อปี ซึ่งทั้ง 2 กองทุนนี้บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี

อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบ จากปริมาณการซื้อขายที่เบาบางและขาดปัจจัยใหม่ๆในตลาด นักลงทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 572 ล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงจากการปรับขึ้น Fed Fund Rate ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีโดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงาน การผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา และการผ่านร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราวของสภาคองเกรส อย่างไรก็ตาม เริ่มมีความเสี่ยงทางการเมืองเพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กรณีทรัมป์รับรองเยรูซาเร็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.79% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 2.14% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.39% ต่อปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ