(เพิ่มเติม) ORI ดึงเชนอินเตอร์คอนฯ บริหารโรงแรม 3 แห่งในกทม.-ชลบุรี หวังดันสัดส่วนรายได้ประจำเป็น 20-30%ใน 5 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 14, 2017 15:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทจะนำร่องด้วยการพัฒนาโรงแรม 3 แห่ง มูลค่าทรัพย์สินหลังการก่อสร้าง (Asset Value) อยู่ที่ประมาณ 7,500 ล้านบาท โดยล่าสุดได้เซ็นสัญญานำแบรนด์และเชนของเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) เข้ามาบริหารโรงแรมทั้ง 3 แห่ง

“IHG เป็นหนึ่งในเครือโรงแรมชั้นนำของโลก ได้รับการยอมรับด้านการบริหารโรงแรมด้วยมาตรฐานสากล และมีแบรนด์โรงแรมคุณภาพหลากหลายแบรนด์อยู่ทั่วโลก การพัฒนาโรงแรม 3 แห่งแรกของเราในครั้งนี้จึงเลือกนำแบรนด์และเชนโรงแรมของ IHG จำนวน 2 แบรนด์มาบริหาร ซึ่งเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ทำงานร่วมกับ IHG นับจากนี้" นายพีระพงศ์ กล่าว

โรงแรมทั้ง 3 แห่งประกอบด้วย 1.สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ (Staybridge Suites Bangkok Thonglor) 2.สเตย์บริดจ์ สวีท ชลบุรี ศรีราชา (Staybridge Suites Chonburi Siracha) และ 3.ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง (Holiday Inn Suites Siracha Laemchabang) ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการจนครบทั้ง 3 แห่งภายในปี 64 โดยการนำแบรนด์สเตย์บริดจ์ สวีท (Staybridge Suites) เข้ามานั้น ถือเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก

สำหรับการพัฒนาโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อนั้น บริษัทได้จับมือกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ พันธมิตรสำคัญมาร่วมพัฒนาโครงการดังกล่าวด้วย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างดีที่สุด ล่าสุด โดยได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาในสัดส่วน 51:49

นายพีระพงศ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมจะเพิ่มมาเป็น 25,000-30,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายราว 70% ส่วนธุรกิจโรงแรมและอื่น ๆ อีกราว 20-30% หลังจากการเน้นการทำธุรกิจที่ทำรายได้ประจำ (Recurry Income) ชัดเจนขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่บริษัท ซึ่งจะครอบคลุมธุรกิจโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ สำนักงานเช่า คอมมูนิตี้มอลล์ โดยล่าสุดได้มีการเปิดธุรกิจโรงแรมนำร่อง 3 แห่งดังกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทจะเน้นการขายคอนโดฯให้กับผู้บริโภคประเภท end user ซึ่งจะเน้นกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่มีความต้องการ (New Demand) โดยมองว่าลูกค้าต่างชาติมองว่าไทยมีการเติบโตสูงเหมาะสมที่จะเป็นบ้านหลังที่สอง แต่ทั้งนี้มองว่าเริ่มมีการซื้อเพื่อเก็งกำไรในกลุ่มลูกค้าจีนสูงขึ้น

อนึ่ง ในงวด 9 เดือนปี 60 ORI มีรายได้รวม 4,014 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 966.74 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ