(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้น หลังยังมีโมเมนตัมเป็นบวก แต่ระวังแรงขายทำกำไรบริเวณ 1,830 หลังตลาดฯขึ้นมามาก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 16, 2018 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมเป็นบวกทำให้ดัชนีฯน่าจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แต่ก็คงจะยังไม่ผ่านระดับ 1,830 จุด ซึ่งให้ระวังแรงขายทำกำไรที่บริเวณนี้ เนื่องจากตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นไปแรงแล้วนับจากปลายปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ซึ่งมองว่าน่าจะปรับฐานบ้าง

ทั้งนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงของการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ ซึ่งระยะสั้นก็ได้มีการเล่นเก็งกำไรกันมาพอควรแล้ว ดังนั้น ควรรอให้มีการปรับฐานก่อนค่อยกลับมาซื้อ แม้แต่ตลาดต่างประเทศช่วงนี้ก็เป็นช่วงของการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบอย่างไร้ทิศทาง

พร้อมให้แนวรับ 1,818-1,810 จุด ส่วนแนวต้าน 1,827-1,830 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 ม.ค.61) ปิดทำการ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 6.29 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.02 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 84.75 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.43 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.67 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.77 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ม.ค.61) 1,822.66 จุด เพิ่มขึ้น 12.47 จุด (+0.69%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,456.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ม.ค.61
  • ตลาดไนเม็กซ์ล่าสุด (15 ม.ค.61) ปิดทำการ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ม.ค.61) ที่ 5.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.92 ทรงตัวจากเย็นวานนี้ ก่อนอ่อนค่าเล็กน้อยตามการปรับตัวทางเทคนิค
  • ทุนนอกยังไหลเข้า "บอนด์" ต่อเนื่อง เผยนับจากต้นปีซื้อสุทธิแล้ว 7.5 หมื่นล้าน กดดันเงินบาทแข็ง "สมคิด" ย้ำ "แบงก์ชาติ" ตามดูใกล้ชิด ระบุเงินบาทแข็งสอดคล้องภูมิภาค ขณะ ธปท. ผ่อนเกณฑ์โอนเงินออกนอก ให้สูงสุด 8 แสนบาทต่อคน จากเดิมไม่เกิน 2 แสน ด้าน "นักวิเคราะห์" มองช่วยชะลอบาทแข็งไม่มาก ส่วนดัชนีหุ้นไทย ทำ "นิวไฮ" รอบใหม่อีกครั้ง
  • "สมคิด" สั่งเพิ่มเป้าการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในอีอีซีจาก 5 แสนล้านบาท เพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 6 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปี เตรียมเสนอ "บิ๊กตู่"เคาะ 1 ก.พ.นี้ หลังโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซีพร้อมเดินตามแผน ทั้งร่าง พ.ร.บ.อีอีซี ที่จะพิจารณาเสร็จภายในเดือน ก.พ. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการ รวม 6 แสนล้านบาท ทีโออาร์จะคลอดตามลำดับ เริ่ม ก.พ.-พ.ย. พร้อมดัน 18 นิคมอุตสาหกรรมเป็นเขตส่งเสริมรองรับการลงทุนเป้าหมายในอีอีซี ทั้งกลุ่ม ซีพี. ทีเอฟดี อมตะ ปิ่นทอง
  • แผนงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในปี 2561 จะให้ความสำคัญกับการยกระดับ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในทุกระดับ ทั้งรายเล็ก รายกลาง และกลุ่มที่มีศักยภาพที่จะส่งออกให้สามารถเข้าสู่ยุค 4.0 ได้ ผ่านโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการใช้เครือข่ายของกระทรวง ทั้งระดับภาค จังหวัด เข้าไปยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ
  • ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) หรือ ธสน. เผยสถานการณ์เงินบาทในปัจจุบันแข็งค่าขึ้นกว่า 12% แม้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออก แต่ทำให้ผู้ส่งออกไทยสูญเสียรายได้เมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาท อาจทำให้กลุ่มผู้ส่งออกเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบรุนแรง เนื่องจากมีเงินทุนหมุนเวียนและมีอัตรากำไรไม่สูง และมีแรงต้านต่อเงินบาทที่แข็งค่าได้น้อย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SPALI (กสิกรไทย) "ซื้อ" เป้า 27 บาท บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายและรายได้ปี 2561 ที่ 33 พันล้านบาท และ 26 พันล้านบาท ตามลำดับ (เติบโต 7.2% และ 6.1%) โดยจะมีการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ที่ 40 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 28.1%) ทั้งนี้มีมุมมองปานกลางสำหรับเป้ายอดขายเนื่องจากฐานการเติบโตที่สูงจากความสำเร็จในปีก่อนที่ทำยอดขายได้ถึง 30.8 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27.5%) แต่เชื่อว่าเป้าหมายรายได้ถือว่าอนุรักษ์นิยมเกินไป เนื่องจากคาดถึงความแน่นอนของเป้ารายได้ดังกล่าวราว 50% จาก backlog ที่ยกมาจากปีก่อน หมายความว่าบริษัทต้องการยอดโอนจากเป้ายอดขายแนวราบในปีนี้ที่ 17.2 พันล้านบาทเพียง 75% ก็จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดยไม่รวมยอดขายคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ดังนั้น จึงมีโอกาสสูงที่รายได้จริงจะเกินเป้าหมาย ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกในครึ่งปีหลัง ขณะที่พัฒนาการของโครงการขนาดใหญ่ มูลค่า 18-20 พันล้านบาท (Supalai Icon) บนถนนสาทร รวมถึงโครงการใหม่ในต่างประเทศจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามอง
  • MINT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 48 บาท คาดกำไรปกติ Q4/60 +37.9% Q-Q, +16.9% Y-Y จาก High Season ของธุรกิจโรงแรมในไทย และส่งผลให้กำไรปกติปี 2560 +17.5% Y-Y ขณะที่ภาพการเติบโตในปี 2561 ยังคงสดใสจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ยังเป็นขาขึ้น ส่วนธุรกิจอาหารได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภค ทำให้กำไรปกติปี 2561 คาดว่ายังเดินหน้าทำ New High ต่อเนื่อง +20.8% Y-Y และยังให้เป็น Top Pick ของกลุ่ม
  • PTTEP (ไอร่า) เป้า 130 บาท ได้รับประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น โดยคาด Q4/60 ผลการดำเนินงานกลับมาเป็นปกติ หลังมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ จากการปรับประมาณการผลิตของแหล่งออยล์แซนด์ที่แคนาดา จำนวน 18,505 ล้านบาท เมื่อ Q3/60 ที่ผ่านมา โดยคาดในช่วง Q4/60 มีกำไรสุทธิ 8,191 ล้านบาท ส่วนหนึ่งคาดจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนหลังเงินบาทแข็งค่า ประมาณ 3,200 ล้านบาท ขณะที่คาดผลกำไรจากการดำเนินงานอ่อนตัวเล็กน้อยจาก SG&A ที่ปกติจะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี โดยคาดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยจะทรงตัวอยู่ที่ 29 USD/boe ในช่วง Q4/60 พร้อมคาดปี 61 ยังมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง
  • MAJOR (ยูโอบี เคย์เฮียน) ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 อาจอ่อนแอตามฤดูกาล และช่วงพระราชพิธีถวายความอาลัยเดือน ต.ค. แต่คาดจะฟื้นตัวโดดเด่นในช่วงไตรมาส 1-2/61 ตามฤดูกาล และคาดหวังการได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวขึ้นหลังฤดูเก็บเกี่ยว คาดการณ์ผลตอบแทนปันผล 4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ