GBS มอง SET สัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,805-1,840 จุด รับราคาน้ำมันทรงตัวสูง-ลุ้น กม.อีอีซี ผ่านเดือนหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 16, 2018 10:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.โกลเบล็ก (GBS) มองภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศคึกคัก ขานรับความคืบหน้าของร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะเข้าสู่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในเดือนก.พ. และราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนและผลักดันให้ดัชนี SET สัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,805 -1,840 จุด

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการของหุ้นสหรัฐโดยเฉพาะกลุ่มการเงินออกมาดีกว่าคาดช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์เดินหน้าทำนิวไฮต่อเนื่อง ประกอบกับราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูงส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และมีความคืบหน้าว่าร่างพ.ร.บ.อีอีซี มีกำหนดเข้าสู่การพิจารณาของสนช. ภายในเดือน ก.พ.นี้ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก

ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบในเชิงลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะนี้มาจาก Fund Flow ที่ยังผันผวน มีซื้อสุทธิสลับขายสุทธิในช่วง 1 เดือนย้อนหลังนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 8 พันล้านบาท และวันที่ 17 ม.ค.คณะกรรมการค่าจ้างจะมีมติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้กับแรงงานทั่วประเทศราว 5-12 บาท มีผลบังคับใช้ราวสิ้นเดือนม.ค. จะกดดันต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ แม้ว่าในรายละเอียดอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไม่เท่ากันตามสัดส่วนการใช้แรงงานและเครื่องจักรในการผลิต

ทั้งนี้ ตลาดยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ สัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินปี 60 คาดกำไรของหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่จะถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรของแบงก์เช่าซื้อมีแนวโน้มเติบโตจากปีก่อนหน้าเนื่องจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญลดลง วันที่ 17 ม.ค. เคาะอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำใหม่นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 23 ม.ค. นี้ และในวันที่ 18 ม.ค. จีน เปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/60 ส่วนสหรัฐ เปิดเผยดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ดัชนี SET ในสัปดาห์นี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,805 -1,840 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคารที่คาดว่าผลประกอบการงวดปี 60 จะเติบโต ได้แก่ TCAP +16%, BAY +9%, TMB +6%, KKP +5%, BBL +2%

หุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปิ แนะนำPTTEP ,PTTGC ,IRPC สำหรับ MONO ได้รับอานิสงส์จากเรทติ้งในช่วง 1-7 ม.ค. 61 ขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 และผลการดำเนินงานปี 60 มีแนวโน้ม turn around พลิกมีกำไร โดยในช่วง 9 เดือนแรกปี 60 มีกำไร 145 ล้านบาทพลิกจากขาดทุน 57 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 59 และ ERW ที่ได้รับอานิสงส์จากภาพรวมการท่องเที่ยวยังดีต่อเนื่อง และเป็น 1 ใน 3 ผู้มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ประกอบธุรกิจ Budget Hotel ในปั๊มบมจ.ปตท. (PTT)

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำนั้น สถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯมีความเสี่ยงจะเกิดเหตุการณ์ shutdown ขึ้นอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวคำพูดที่สร้างความอ่อนไหวในเชิงเหยียดเชื้อชาติต่อประเด็นผู้อพยพและมีแนวโน้มจะยกเลิกการรับผู้อพยพที่เป็นนโยบายผ่อนปรนร่วมกันระหว่างพรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน รวมทั้งดัชนีเศรษฐกิจหลายตัวในเดือน ธ.ค.60 อ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.60

ในขณะที่เดือนนี้มีแนวโน้มจะอ่อนลงอีกจากภาวะอากาศหนาวเย็นผิดปกติทั่วสหรัฐฯ ทำให้เงินสกุลดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น และถูกกดลงอีกจากการแข็งขึ้นของสกุลยูโรที่รับข่าวดีเรื่องการเมืองในเยอรมนี ที่มีแนวโน้มจะมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจาก 3 พรรคการเมืองได้ข้อตกลงร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาลผสม ทำให้ราคาทองคำทะยานขึ้นพ้นกรอบการแกว่งตัวระหว่าง 1,310–1,330 ดอลลาร์/ออนซ์ เพื่อทดสอบแนวต้าน 1,350 ดอลลาร์ และ 1,400 ดอลลาร์ด้วยการประมาณราคาเป้าหมายจากรูปแบบ flag ที่เพิ่ง breakout

สำหรับสัปดาห์นี้แนะนำให้นักลงทุนทยอยลดสัดส่วนการถือครองทองคำเมื่อราคาปรับขึ้นและปรับมาซื้อเก็งกำไรสั้น ๆ มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงที่ราคาเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ