บลจ.ทิสโก้ เผย"กองทิสโก้ ESG เพื่อสังคม" ผลตอบแทน 1 ปีอยู่ที่ 23.87% พร้อมเตรียมส่งมอบรายได้ให้แก่ 2 มูลนิธิ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 17, 2018 11:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บลจ. ทิสโก้ กล่าวว่า การลงทุนในบริษัทที่มีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เห็นได้จากผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด ทิสโก้ ESG เพื่อสังคม (TISESG) ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (21 ต.ค 2558) ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2560 กองทุน TISESG ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 17.38% ต่อปี มากกว่าดัชนีชี้วัดของกองทุนในช่วงระยะเวลาเดียวกันซึ่งอยู่ที่ 11.85% เฉลี่ยต่อปี (ดัชนีชี้วัดของกองทุนเปลี่ยนจาก SET Index เป็น SET TRI เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2560)

ผลตอบแทนย้อนหลังระยะ 1 ปีของกองทุน TISESG อยู่ที่ 23.87% ระยะ 6 เดือนอยู่ที่ 14.62% และระยะ 3 เดือนอยู่ที่ 7.38% เมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัดข้างต้นซึ่งอยู่ที่ 17.30%, 12.66% และ 5.02% ตามลำดับ

“ผลการดำเนินงานของกองทุนที่ผ่านมาเป็นหนึ่งบทพิสูจน์ที่ทำให้เห็นว่า การลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่ให้ความสำคัญเรื่องธรรมาภิบาลช่วยสร้างโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนได้ พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนยึดมั่นที่จะดำเนินกิจการตามหลัก ESG ซึ่งจะช่วยยกระดับสังคมและเศรษฐกิจไทย"นายสาห์รัช กล่าว

นายสาห์รัช กล่าวว่า ในเร็วๆ นี้ บลจ.ทิสโก้จะมอบค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน TISESG ประมาณ 50% ของรายได้ค่าธรรมเนียมการจัดการของกองทุนชนิดหน่วยลงทุน D และ 40% ของรายได้จากค่าธรรมเนียมการจัดการของชนิดหน่วยลงทุน A ให้กับ 2 หน่วยงานที่ทำประโยชน์ให้กับสังคม คือ 1. มูลนิธิทิสโก้เพื่อการกุศล และ 2.สถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งสถาบันไทยพัฒน์จะส่งต่อเงินดังกล่าวให้มูลนิธิหรือหน่วยงานที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป ทั้งนี้ การสนับสนุนเงินทุนให้กับหน่วยงานที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน

กองทุน TISESG จะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น (CAC) และผ่านเกณฑ์การคัดเลือกด้าน ESG ของบลจ.ทิสโก้ ส่วนหนึ่งจะเป็นบริษัทในกลุ่ม “ESG100" จัดทำโดยสถาบันไทยพัฒน์

โดย ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2560 หลักทรัพย์ที่กองทุนมีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) 8.34% ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) 6.98% ธนาคารกรุงเทพ (BBL) 6.93% บมจ. ปตท. (PTT) 6.87% บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) 6.43%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ