ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,830.39 จุด ลดลง 3.79 จุด (-0.21%) มูลค่าการซื้อขาย 103,676.37 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ก่อนพลิกติดลบในช่วงใกล้ปิดตลาดฯ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,852.51 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,830.03 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 548 หลักทรัพย์ ลดลง 909 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 404 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าดัชนีฯปรับขึ้นสอดคล้องตลาดเพื่อนบ้านหลังอัตราผลตออบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) อ่อนตัวลงอีกครั้ง แม้ช่วงต้นการเทรดภาคบ่ายดัชนีฯได้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากตอบรับข่าวนายกรัฐมนตรียืนยันจัดการเลือกตั้งไม่เกินก.พ.62 แต่เมื่อขึ้นไปทดสอบแนว 1,850 จุดแล้วไม่ผ่านทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา ซึ่งดัชนีฯทีระดับ 1,850 เป็นระดับที่แข็งแกร่ง และ Valuation ตึงตัวมาก ในทางกลยุทธ์จึงแนะขายเมื่อราคาหุ้นปรับขึ้นไปและเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในภาคบ่ายนี้ก็ย่อตัวลงคล้ายกับตลาดหุ้นไทย มองว่าเป็นการขายล็อคกำไรเพื่อป้องกันความเสี่ยงในคืนนี้ที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่จะแถลงต่อสภาคองเกรส และ Bond Yield ก็อ่อนตัวลงมาแล้ว นักลงทุนบางส่วนตอบรับข่าวดีไปบางส่วนแล้ว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) นายณัฐชาต กล่าวว่า ทิศทางตลาดฯขึ้นกับปัจจัยจากสหรัฐฯในคืนนี้ โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธานเฟดหากผลออกมาเป็นกลางเชื่อว่าดัชนีฯจะแกว่งไซด์เวย์ แต่ถ้ามีการผ่อนคลายก็คาดว่า Bond Yield จะปรับตัวลงแรง และหากเป็นนโยบายเข้มงวด Bond Yield ก็จะปรับตัวขึ้นแรง ซึ่งไม่ว่าจะออกมาอย่างไรก็จะมีผลกระทบต่อทิศทางของตลาดฯ
พร้อมให้แนวรับ 1,820 จุด ส่วนแนวต้าน 1,850 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 17,236.64 ล้านบาท ปิดที่ 574.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 6,657.10 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 4,026.38 ล้านบาท ปิดที่ 494.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,749.76 ล้านบาท ปิดที่ 99.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,739.70 ล้านบาท ปิดที่ 23.20 บาท ลดลง 0.30 บาท