SMART เชื่อผลงานปีนี้ฟื้นตัวหลังผ่านจุดต่ำสุดในปี 60 วางเป้ารายได้โต 10% พลิกกลับเป็นกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 28, 2018 12:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต (SMART) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปีนี้จะฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาถือว่าผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยตั้งเป้าหมายรายได้ 340 ล้านบาท เติบโตอย่างน้อย 10% และเริ่มกลับมามีกำไรสุทธิ ขณะที่สัดส่วนรายได้จะมาจากงานภาครัฐ 30% ภาคเอกชน 60% และช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์และโมเดิร์นเทรด10 % ซึ่งเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ที่มีการเติบโตของยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ

บริษัทมองว่าความต้องการใช้วัสดุอิฐมวลเบาปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยเป็นผลจากการลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มมีการลงทุนเปิดโครงการใหม่มากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/60 ปริมาณความต้องการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ราคาจำหน่ายทยอยมีการปรับขึ้นด้วยเช่นกัน

ดังนั้น แผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อสร้างการเติบโตด้วยการเน้นขยายฐานลูกค้าในประเทศ เนื่องจากมีปัจจัยบวกสนับสนุนหลายประการ โดยจะเร่งบุกตลาดโครงการภาครัฐที่มีการลงทุนในโครงการต่างๆจำนวนมาก อีกทั้งจะเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

พร้อมทั้งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า "อิฐมวลเบาสำหรับงานตกแต่ง" ผ่านร้านโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างชั้นนำ เนื่องจากมีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ารายย่อย สถาปนิก ผู้รับเหมา ปัจจุบันได้วางจำหน่ายสินค้าในร้านไทวัสดุ จำนวน 43 สาขา และเพิ่มตัวแทนจำหน่ายร้านค้าวัสดุกว่า 30 ราย จากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้การกระจายสินค้ามีความครอบคลุม และเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นในอนาคต

สำหรับการขยายตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ที่ผ่านมาบริษัทมีการส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยมีกระแสตอบรับที่ดีและมีออเดอร์สั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศดังกล่าว ซึ่งบริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากยอดขายต่างประเทศปีนี้อยู่ที่ 2%

ด้านผลประกอบการปี 60 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 308.48 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 313.85 ล้านบาท จำนวน 5.37 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 74.176 ล้านบาท สาเหตุที่ผลประกอบการลดลง มาจากการชะลอตัวของโครงการภาครัฐและภาคเอกชน ส่งผลให้รายได้และกำไรขั้นต้นมีการปรับตัวลดลง รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นที่เกิดขึ้นในปี 60


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ