ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,811.98 จุด ลดลง 18.15 จุด (-0.99%) มูลค่าการซื้อขาย 70,322.88 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,825.63 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,806.84 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 429 หลักทรัพย์ ลดลง 297 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 1,054 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปรับลงตามตลาดสหรัฐ ภายหลังสหรัฐฯประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งเป็นมาตรการกีดกันการค้า แม่ประเทศไทยไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แค่ Sentiment ได้รับผลกระทบไปบ้าง
นอกจากนี้ การที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ส่งสัญญาณไม่ปิดกั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ ทำให้ตลาดเกิด Panic จึงป้องกันความเสี่ยงต้วยการขายล็อคกำไร อีกทั้งราคาน้ำมันล่าสุดยังย่อตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
ทั้งนี้ การขายล็อคกำไรส่วนหนึ่งยังมาจากเรื่องที่สุดสัปดาห์นี้จะมีการเลือกตั้งในอิตาลี แม้ว่านักลงทุนยังไม่กังวลมากนัก เห็นได้จากระดับชดเชยความเสี่ยงพันธบัตรของอิตาลีอยู่ในระดับต่ำ แต่หากผลออกมาไม่มีบทสรุป ไม่มีพรรคไหนที่จะตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ อาจทำให้ตลาดกลับมากังวลได้
ในสัปดาห์หน้ายังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 8 มี.ค.นี้จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินอย่างไร และในวันที่ 9 มี.ค.ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ โดยเฉพาะอัตราค่าจ้างต่อรายชั่วโมงจะสูงขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ เพราะจะมีผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield)
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายณัฐชาต กล่าวว่ ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,780 จุด ส่วนแนวต้าน 1,840 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 11,649,52 ล้านบาท ปิดที่ 556.00 บาท ลดลง 12.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,853.04 ล้านบาท ปิดที่ 99.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,741.15 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท ลดลง 1.25 บาทCPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,381.47 ล้านบาท ปิดที่ 84.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,127.01 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท ลดลง 4.00 บาท