AOT ชี้แจงโครงการจัดซื้อจัดจ้างเปลี่ยนเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด-ปรับปรุงระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday March 4, 2018 16:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) หรือ AOT ชี้แจงเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อจัดจ้างเปลี่ยนเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จำนวน 26 เครื่อง และปรับปรุงระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) วงเงิน 2,880,500,000 บาท นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ตามที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR)โครงการจัดซื้อจัดจ้างเปลี่ยนเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) และปรับปรุงระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระอาคารผู้โดยสาร (BHS) ณ ทสภ.ได้กำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาที่จะต้องได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศ หรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ ว่าเป็นผู้จำหน่ายเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด รุ่นที่มีความเร็วสายพานไม่น้อยกว่า 0.5 เมตรต่อวินาที และได้รับการรับรองจาก Transportation Security Administration (TSA) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และการอนุมัติจาก ECAC Standard-3 หรือสูงกว่า ของประเทศในกลุ่มยุโรป ถือเป็นการเปิดช่องให้มีการล็อกสเปคกำหนดตัวเอกชนผู้ได้รับงานล่วงหน้า เนื่องจากมีเอกชนไม่กี่รายที่สามารถเข้าร่วมประกวดภายใต้คุณสมบัตินี้ได้ นั้น ทอท.ขอชี้แจงว่า เมื่อพิจารณาจากความต้องการของ ทสภ. ซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว ที่ปรึกษาฯ จึงสรุปได้ว่าเครื่อง EDS ความเร็วสูง 0.5 เมตรต่อวินาที มีความเหมาะสมกับโครงการนี้ เนื่องจากมีความสามารถได้มาตรฐานความปลอดภัยที่สอดคล้องกับความต้องการของ ทสภ. และช่วยเพิ่มระดับการให้บริการ (Level of Services) ของ ทสภ. ที่มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วได้ในอนาคต ทั้งนี้ สเปค การปรับปรุงใหม่ ทอท.ได้คำนึงถึงเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ ต้องมีความทันสมัยกว่าเดิมเป็นสำคัญ ไม่ใช่ประเด็นแค่เรื่องความเร็วเท่านั้น เนื่องจากเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว และเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำเข้ามาต้องรองรับได้ในระยะยาว ถึง 13-15 ปีข้างหน้า หรือ ถึงปี 2578

นอกจากนั้น ในเชิงคุณภาพสเปคของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดระบบใหม่นี้ ต้องมีมาตรฐานระดับโลก ควรต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Transportation Security Administration (TSA) และการอนุมัติจาก ECAC Standard-3 หรือสูงกว่าของประเทศในกลุ่มยุโรป เนื่องจากทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรปต่างยอมรับสนามบินที่มีมาตรฐานในระดับเดียวกันในการบินเข้าประเทศ จากรายงานผลการออกแบบ (Final Report) ตรวจสอบ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 มีผู้ผลิตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดรุ่นความเร็ว 0.5 เมตรต่อวินาทีที่ได้รับการรับรองจาก TSA แล้ว 2 รายคือ เครื่อง MV3D ของบริษัท L3 Communications และ เครื่อง Hi-Scan10080XCT ของบริษัท Smith Detection และอยู่ในระหว่างขออนุญาต 2 ราย คือ เครื่อง CTX9800DSi ของบริษัท Morpho Detection และเครื่อง X1000 ของบริษัท SureScan ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าเครื่อง CTX9800DSi ของบริษัท Morpho Detection เดิมนั้นปัจจุบันได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Smith Detection แล้วจากการเข้าซื้อกิจการ ดังนั้น ข้อกำหนดรายละเอียดของการประกวดราคานี้จึงมิได้เป็นการปิดกั้น หรือกำหนดตัวเอกชนในการจัดหาไว้แต่อย่างใด สำหรับกรณีที่นายวรพจน์ ยศะทัตต์ ตัวแทนขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดยี่ห้อ CTX ในประเทศไทย กล่าวว่า ร่าง TOR ประมูลงานโครงการนี้ ไม่แตกต่างจากร่างเดิมที่เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บริหาร ทอท. รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล มีการกีดกันไม่ให้เครื่อง CTX เข้าร่วมประมูล โดยเฉพาะการกำหนดรุ่นที่มีความเร็วสายพานไม่น้อยกว่า 0.5 เมตรต่อวินาที ที่ได้รับการรับรองจาก TSA ซึ่งจะทำให้ CTX ไม่ผ่านคุณสมบัติทันที รวมถึงการจัดทำราคากลางจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดกับสายพานลำเลียงวงเงิน 2.8 พันล้านบาท บริษัทที่ปรึกษา ที่รับจ้างจัดทำ TOR ไม่เคยสอบถามราคาเครื่อง CTX จากบริษัทมาก่อนนั้น

ทอท. ชี้แจงว่า ในการจัดทำราคากลางของงานจ้างปรับปรุงระบบตรวจสอบวัตถุระเบิดฯ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาฯ ได้มีการสอบราคาไปยังผู้ผลิตเครื่อง EDS ความเร็วสูง 0.5 เมตรต่อวินาที และได้รับการเสนอราคา ซึ่งเป็นราคาที่ครอบคลุมถึงงานปรับปรุงสายพานหน้าเครื่องและหลังเครื่องแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ