SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,795.29 จุด เพิ่มขึ้น 19.92 จุด (+1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 33,866.10 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศหลังดัชนีดาวโจนส์พุ่งรับตัวเลขค่าจ้างสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อลดลง จึงคาดว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันขึ้นมาแรงอีกครั้งหนุนภาพรวมการลงทุน และน่าจะยังผลักดันให้ดัชนียืนอยู่ในแดนบวกได้ต่อไป ภาคบ่ายลุ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,800 จุด และมีแนวรับที่ 1,780 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,795.29 จุด เพิ่มขึ้น 19.92 จุด (+1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 33,866.10 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยยืนอยู่ในแดนบวกได้ตลอดการซื้อขายภาคเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,797.91 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,784.39 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดปรับตัวขึ้นซึ่งเป็นไปในทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก รับอานิงส์จากเมื่อคืนวันศุกร์ที่สหรัฐฯประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ.ออกมาแข็งแกร่ง แต่ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อลดลง บ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของตลาดหุ้น ส่งผลให้ Sentiment การลงทุนทั่วโลกดีขึ้น
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ผลักดันให้ดัชนีหุ้นขึ้นไปกว่า 6 จุด และหนุนบรรยากาศการลงทุนโดยรวมสดใส
ส่วนสัญญาณการลงทุนของต่างชาติยังค่อนข้างผสมผสาน หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยกว่า 2.7 พันล้านบาท แต่ก็เปิดสถานะ short ในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเปิดสถานะ short ใหม่ ทำให้ยังไม่มีทิศทางการลงทุนที่ชัดเจนของเงินไหลเข้าดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยก็ไม่ได้ถูกผลักดันจากเงินทุนต่างชาติมากนัก เพราะเหลือถือหุ้นไทยไม่มากนักด้วย Valuation ที่สูง ทำให้การลงทุนของต่างชาติไม่ได้มีอิทธิพลมากนักเมื่อเทียบกับนักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทย
สำหรับแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีหุ้นไทยยังมีโมเมนตัมที่ยังยืนอยู่ในแดนบวกได้ โดยลุ้นว่าจะทดสอบระดับแนวต้านที่ 1,800 จุดได้หรือไม่ ขณะที่มีแนวรับบริเวณ 1,780 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,365.56 ล้านบาท ปิดที่ 550.00 บาท เพิ่มขึ้น 16.00 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,105.38 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,865.56 ล้านบาท ปิดที่ 500.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,685.55 ล้านบาท ปิดที่ 71.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,463.88 ล้านบาท ปิดที่ 6.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท