(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐาน ตามตลาดตปท. วิตกสงครามการค้า-การเมืองสหรัฐฯถ่วงตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 14, 2018 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับฐาน หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงมากเมื่อคืนนี้ จากข่าวที่ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นวงเงินสูงถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยพุ่งเป้าไปที่สินค้าด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร และคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดเผยแผนดังกล่าวในสัปดาห์หน้า ซึ่งกรณีนี้ทำให้ตลาดกลับมาวิตกเรื่องสงครามการค้ารอบใหม่

สำหรับในส่วนของประเทศไทย อาจจะได้รับผลกระทบต่อความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในไทยที่จะชะลอตัวลง เนื่องจากปัจจุบันไทยมีการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางส่วนไปประกอบที่จีน และจีนเป็นผู้ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะกระทบต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ได้

นอกจากนี้เมื่อคืนนี้ยังมีข่าวการปลดรมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯด้วย ทำให้ตลาดอาจไม่มั่นใจต่อนโยบายด้านต่างประเทศของสหรัฐฯว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ด้วย ส่วนกรณีตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืนนี้ นับว่าอยู่ในระดับไม่สูงเกินไปและสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ ก็ช่วยลดความกังวลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี่ย 4 ครั้งของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้

ส่วนทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ ยังนับว่าอยู่ในระดับไม่มากนัก และตลาดก็รับรู้เรื่องการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.17 ล้านบาร์เรล/วันภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯแซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่อยู่ในระดับไม่สูงมากนัก ทำให้ลดแนวโน้มต่อการขึ้นดอกเบี้ย กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ซึ่งน่าจะยังเป็นผลดีต่อทิศทางราคาน้ำมันอยู่

อย่างไรก็ตามคาดว่าการปรับฐานของดัชนีหุ้นไทยในวันนี้จะยังไม่น่าหลุดระดับ 1,800 จุด หลังตลาดหุ้นเพิ่งฟื้นตัวขึ้นจากที่ปรับลดลงไปมากก่อนหน้านี้ ขณะที่แรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์น่าจะไม่มีผลต่อดัชนีมากนัก

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,800 และ 1,794 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,815 และ 1,820 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,007.03 จุด ลดลง 171.58 จุด(-0.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,765.31 จุด ลดลง 17.71 จุด (-0.64%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,511.01 จุด ลดลง 77.31 จุด (-1.02%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 203.11 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 11.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 279.66 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 31.90 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 17.06 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 12.34 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.54 จุด,ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 1.96 จุด,ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 10.46 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 มี.ค.61) 1,809.90 จุด เพิ่มขึ้น 9.58 จุด (+0.53%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 349.10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 มี.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 60.71
ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 65 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 มี.ค.61) ที่ 7.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.22 แนวโน้มแข็งค่า หลังมีแรงขายดอลล์จากวิตกการเมืองสหรัฐฯกรณีปลดรมว.ต่างประเทศ
  • ครม. อนุมัติหลักการ พ.ร.ก.คุมลงทุนเงินดิจิทัล หวังสกัดช่องทางฟอกเงิน ฉ้อโกงประชาชน พร้อมไฟเขียวเก็บภาษีกำไร-ปันผลจากเงินลงทุน เผยอยู่ระหว่างรอกฤษฎีกาพิจารณารายละเอียด คาดสัปดาห์หน้าชัด เคาะนิยามสินทรัพย์ดิจิทัล 3 ประเภท สั่งผู้เกี่ยวข้องขึ้นทะเบียน ด้าน ก.ล.ต. เผยเตรียมประกาศรองรับแล้ว รอแค่กฎหมาย ด้าน"บีไอเอส" เตือนการออกเงินดิจิทัลรวมถึง "บิทคอยน์" โดยธนาคารกลางอาจมาพร้อมความเสี่ยงถูกฉ้อโกงแม้จะสามารถปฏิวัติระบบการเงินโลกได้ก็ตาม
  • รมว.อุตสาหกรรม เผยผลพวง พ.ร.บ.อีอีซีผ่าน สนช.จ่อคลอดเร็วๆ นี้ส่งผลให้นักลงทุนไทย-เทศเริ่มขยับเดินหน้าตัดสินใจการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายชัดเจนแล้ว ขณะที่บางรายยังหารือกันต่อเนื่อง โดยคาดว่ากลุ่มอาลีบาบาจะสรุปพื้นที่และแผนลงทุนอีคอมเมิร์ซปาร์กสิ้นเดือนนี้ ขณะที่เลขาธิการกนศ. ระบุว่าขณะนี้กำลังเร่งหาพื้นที่แปลงใหญ่ขนาด 600-800 ไร่ ตามที่บริษัท เอ็กซอนโมบิล คอร์ปอเรชั่น ต้องการเพื่อลงทุนขยายโรงกลั่นและโรงแยกปิโตรเคมี มูลค่า 2 แสนล้านบาท ตามที่ได้หารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไว้
  • ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงาน กสทช. คืนหนังสือค้ำประกันธนาคารกรุงเทพ 16 ฉบับ ลงวันที่ 10 ก.พ. 2557 จำนวนกว่า 1,748.8 ล้านบาท ที่บริษัท ไทยทีวี โดยนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือติ๋ม ทีวีพูล เจ้าของช่อง Loca และช่องไทยทีวี ยื่นฟ้องคดีขอคืนเงินค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตงวดที่ 3 และงวดที่เหลือ ซึ่งนับเป็นการสร้างบรรทัดฐานเปิดทางให้ทีวีดิจิทัลสามารถคืนใบอนุญาตได้ แต่เรียกค่าเสียหายไม่ได้
  • ครม.เห็นชอบรายละเอียดร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ (งบกลางปี) พ.ศ. 2561 หลังจากที่ ครม.อนุมัติกรอบงบประมาณดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2561 ในวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท แยกเป็นส่วนสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นเป็นจำนวนไม่เกิน 100,358 ล้านบาท และเพื่อชดใช้เงินคงคลังเป็นจำนวน 49,642 ล้านบาท โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะนำเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 22 มี.ค. 2561 ต่อไป
  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ มั่นใจมาร์เกตแคปพุ่งเป็น 20-22 ล้านล้านบาท และวอลุ่มเทรดแตะ 100,000 ล้านบาทในปี 64 เผยช่วง 4 ปี มาร์เกตแคปหุ้น IPO เพิ่มปีละ 600,000 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 73,617 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคลในประเทศเฉลี่ย 32,372 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ 24,319 ล้านบาท นักลงทุนบริษัทหลักทรัพย์ 8,927 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศ 7,999 ล้านบาท และมีมาร์เก็ตแค็ป รวม 18.7 ล้านล้านบาท
  • บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ MI เปิดเผยว่า ปรับเป้าเม็ดเงินอุตสาหกรรมโฆษณาปี 2561 อาจโตแค่ 6% จากคาดการณ์เดิม 10% หลังพบผู้ประกอบการยังทุ่มงบทำโปรโมชั่นและออนไลน์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SCC (ทรีนีตี้) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 530 บาท หลังมองการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มใน BMP ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายท่อและข้อต่อ PVC ชั้นนำทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม จะเป็นผลดีกับ SCC ในการที่มีอำนาจในการควบคุมและบริหาร BMP ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยก่อนหน้านี้ SCC เองได้มีการศึกษาโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์เวียดนามซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการสรุปจัดหาแห่งเงินกู้ ดังนั้นการเข้าซื้อ BMP ในครั้งนี้จะช่วยให้ SCC ได้มีโอกาสเข้าในทำการตลาดในประเทศเวียดนามได้อย่างเต็มตัวและอาจจะมี Synergy กับโครงการปิโตรฯคอมเพล็กซ์ ในอนาคตอีด้วย สำหรับราคาซื้อหุ้นเพิ่มใน BMP ที่ 3.23 พันล้านบาท ค่อนข้างที่จะเหมาะสม โดยผลประกอบการเมื่อปี 2559 BMP มีกำไรสุทธิ 28 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 897 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคิดเป็น P/E ที่ SCC ซื้อจะอยู่ประมาณ 12 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของ BMP ที่ 14 เท่า
  • TRUE (ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 8.10 บาท โดยมองปัจจัยบวกจากกระแสเงินสดอิสระที่กลับมาเป็นบวกและเงินปันผลที่สูงขึ้น แม้ TRUE จะขาดทุนจากการดำเนินงานปกติสูงขึ้น yoy ในปี 60 แต่รายได้และ EBITDA ยังเติบโตสูง ขณะที่สถานการณ์การกำกับดูแลยังเป็นบวก เพราะการประมู ลและดีล 2.3GHz อาจล่าช้าและรัฐอาจยอมขยายระยะเวลาการชำระค่าใบอนุญาต 900MHz อย่างไรก็ตามปรับลดประมาณการในปี FY61-63 เพื่อรับรู้ดีลการซื้อและเช่ากลับสินทรัพย์ แต่ได้ปรับราคาเป้าหมายในปีนี้ตามวิธี SOP ขึ้น 8% สะท้อนมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของ DIF
  • AH (เมย์แบงก์ฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 39 บาท จากการที่ผู้บริหาร AH ตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2561 จะเติบโตได้ 3-5% ตามอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ และ แรงหนุนจากฐานยอดขายในต่างประเทศ การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้การมีพันธมิตร SGAH จะช่วยสร้าง Global Footprints มีศักยภาพในอนาคตที่จะขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศ อินเดีย สหรัฐ และยุโรป โดยคาดกำไรปกติในปี 2561 จะเติบโตต่อเนื่อง หุ้น AH มีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดี 3.5-3.7% ซื้อขาย P/E ต่ำ 9.5 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ