นายนพปฎล เดชอุดม รองประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมนำสินทรัพย์ขายเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) เพิ่มเติมอีก มูลค่าราว 6.5 - 7 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาส 2/61 โดยจะนำเงินที่ได้ไปใช้คืนหนี้สถาบันทางการเงินบางส่วน ซึ่งน่าจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงิน (Net Debt to EBITDA Ratio) ของบริษัทฯ ปรับตัวลดลงเหลือไม่เกิน 2 เท่า จากสิ้นปี 60 อยู่ที่ 2.5 เท่า รวมถึงบริษัทฯ จะบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาอีกด้วยในช่วงไตรมาส 2/61
นอกจากนี้ กองทุน DIF มีแผนเพิ่มทุนในไตรมาส 2/61 โดยจะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นรายใหม่และผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อจะนำเงินที่ได้ไปซื้อสินทรัพย์ เช่น เสาโทรคมนาคม และ สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) เป็นต้น ของกลุ่มทรู ซึ่งจะช่วยผลักดันมูลค่ากองทุนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มีมูลค่ากองทุนอยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านบาท และเพิ่มปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็อยู่ในช่วงของการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ฯ (Book build) คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนในรายละเอียดได้ในช่วงต้นไตรมาส 2/61
"ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันทาง TRUE ก็ได้เดินหน้าสร้างโครงข่ายเพิ่มเติม ซึ่งก็มีการให้บริการ 4.5G ทั่วประเทศ และครอบคลุมประชากรถึง 98% และสร้างเสาเพิ่มเติมอีก และเดินสายไฟเบอร์ ปัจจุบันเรามีการนำ Fiber Optic เข้าสู่บ้านคน 15 ล้านครัวเรือน จาก 22 ล้านครัวเรือนในประเทศไทย ขณะที่เราก็ได้มีการเสนอขายให้กับกองทุนด้วย จากที่เรามีเสาค่อนข้างมาก"นายนพปฎล กล่าว