STAR-W3 ปิดเทรดวันแรกที่ 2.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 72.889 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.24 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 3.34 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.52 บาท
ขณะที่หุ้น STAR ปิดที่ 6.75 บาท ลดลง 0.65 บาท (-8.78%) มูลค่าซื้อขาย 15.887 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 7.35 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 7.35 บาท และราคาลงต่ำสุด 6.75 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวิร์ค (STAR) ครั้งที่ 3 ใช้ชื่อย่อว่า STAR-W3 ที่ 3.16 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 7.40 บาท คิดเป็น All-in Premium ที่ -3.3% เนื่องจากสถานะที่ Deep In The Money และต้นทุนของ STAR-W3 อยู่ที่ 3.40 บาท (XW 2 : 1 โดยที่ราคาก่อนขึ้นเครื่องหมายอยู่ที่ 8.95 บาท และหลังขึ้นเครื่องหมายอยู่ที่ 7.25 บาท)
แม้ว่า STAR-W3 จะมีความน่าสนใจในการเก็งกำไรเมื่อเทียบกับหุ้นแม่จาก Gearing, สภาพคล่องในการแปลงสภาพ, และไม่มีการจ่ายเงินปันผล แต่แนะนำให้นักลงทุนติดตามข้อมูลของ STAR เนื่องจากบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจจากการจำหน่ายสุขภัณฑ์ เป็นทำธุรกิจการบริหารจัดการขยะที่ออสเตรเลีย ทำให้แนวโน้มการดำเนินงานและผลประกอบการในอดีตไม่สามารถชี้วัดอนาคตของกิจการได้
พร้อมให้กรอบมูลค่า STAR-W3 ไว้ที่ 2.98-3.33 บาท เมื่อราคาหุ้น STAR เคลื่อนไหวในกรอบ 7.15-7.65 บาท โดยมี Volatility 57% per year
STAR เดิมบริษัทประกอบธุรกิจจำหน่ายสุขภัณฑ์และวิศวกรรมบริการ แต่ในภายหลังได้เปลี่ยนธุรกิจหลักเป็นการบริหารและจัดการขยะจากชุมชน และอุตสาหกรรมในออสเตรเลีย (บริษัทเข้าถือหุ้น 60%) และมีบริษัทย่อยที่ลงทุนในธุรกิจสื่อ, ระบบไฟฟ้า และพลังงาน
STAR-W3 จำนวนที่ออก 135.45 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 4.00 บาท, อายุ 2 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันที่ 25 ของเดือน มิ.ย. และ ธ.ค. (โดยใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 25 มิ.ย. 2561 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายในวันที่ 21 ก.พ. 2563)