นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า วันนี้บริษัทเปิดตัวพันธมิตรธุรกิจบริการค้นหาข้อมูลสินเชื่อออนไลน์ Refinn.com ซึ่งเป็นสตาร์อัพฟินเทค ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการติดตั้งแผงโซลาร์ หรือสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charger) เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางเลือกให้ลูกค้าที่สนใจติดตั้งโซลาร์ หรือ EV Changer โดยตั้งเป้าจะมีลูกค้าที่ขอยอดสินเชื่อผ่านความร่วมมือครั้งนี้ราว 100 ล้านบาท ภายใน 5 ปี (ปี 61-64)
ขณะที่ตามแผนปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายติดตั้งโซลาร์เพิ่ม 20 เมกะวัตต์ (MW) ทั้งในโครงการของเสนาและลูกค้าทั่วไปที่สนใจ ควบคู่กับการให้บริการลูกค้านอกโครงการที่สนใจติดตั้ง ที่สำคัญมีแอพพลิเคชั่น SENA 360 องศา SERVICE ซึ่งเป็นระบบที่สามารถคำนวณการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานจริงที่เกิดขึ้นภายในบ้านมั่นใจได้ว่าระบบดังกล่าวจะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการของเสนา โดยในส่วนธุรกิจโซลาร์ปีนี้ ทางบริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 480 ล้านบาท หรือเติบโต 72% จากปีก่อนมีรายได้ 278.4 ล้านบาท
"ปัจจุบันเริ่มมีผู้สนใจติดตั้งแผงโซลาร์มากยิ่งขึ้นเพราะมีความคุ้มทุนในการประหยัดพลังงานประกอบกับแผงโซลาร์มีราคาลดลงต่อเนื่องและประสิทธิภาพดีขึ้นมากทำให้มีผู้คนสนใจเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ลูกบ้านในโครงการของเสนาเท่านั้น แต่เริ่มมีลูกค้าทั่วไปสนใจต้องการติดตั้งเพิ่มด้วยเช่นกัน"นางสาวเกษรา กล่าว
นางสาวเกษรา กล่าวว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเพื่อทำการติดตั้งแผงโซลาร์เพื่อที่อยู่อาศัยมาแล้วกว่า 300 หลังคาเรือน และยังได้ให้คำปรึกษาด้านการออกแบบ/การติดตั้ง ตลอดจนการบริการหลังการขายแบบครบวงจรในเรื่องโซลาร์รูฟท็อปด้วย โดยที่ผ่านมาทางเสนาโซลาร์ฯได้เป็นพันธมิตรธุรกิจกับ Toshiba ซึ่งเป็นผู้นำด้านแผงโซลาร์จากประเทศญี่ปุ่น และอีกหนึ่งพันธมิตร คือ ABB ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตเครื่องแปลงไฟจากประเทศอิตาลี ยิ่งไปกว่านั้น ทางบริษัทยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการติดตั้งระบบการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาด้วย ซึ่งบริษัทเสนาโซลาร์ฯได้มุ่งมั่นในการนำพลังงานทดแทนมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า
นอกจากทุกโครงการของเสนาจะติดตั้งโซลาร์ให้กับบ้านทุกหลังแล้ว ในปีนี้ทางบริษัทมีโครงการนำร่องติดตั้ง EV Charger ภายใต้ชื่อ EV ready รองรับยานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งแบบไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ให้กับบ้านทุกหลัง
"นับว่าเสนาเป็น The First EV ready รายแรกในไทยที่ติดตั้งเครื่องชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า (EV ready) โดยจับกลุ่มบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนั้นจะขยายการติดตั้งเครื่องชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าทุกโครงการใหม่ในอนาคตด้วย"นางสาวเกษรา กล่าว
สำหรับสิทธิพิเศษ ลูกค้าที่สนใจติดตั้งโซลาร์/EV Charger และสมัครเข้ามาผ่านทาง"รีฟินท์" นอกจากได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษแล้ว ทางเสนาโซลาร์ยังได้เตรียมโปรโมชั่นสุดพิเศษเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้น ฟรี ค่าบำรุงรักษาระบบ 2 ปี มูลค่า 10,000 บาท (ล้างทำความสะอาดปีละสองครั้ง, ตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ปีละครั้ง)
ด้านนางสาวพรพิมล ปฐมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดอท คอม จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในวันนี้นับเป็นครั้งแรกในความร่วมมือเป็นพันธมิตรข้ามสายธุรกิจกันระหว่าง "Refinn.com" และ "เสนา โซลาร์ฯ" ในการนำเรื่องของธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และธุรกิจด้านสินเชื่อ มาร่วมมือกันก่อให้เกิดประโยชน์ และเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า โดยลูกค้าที่ผ่อนบ้าน หรืออาคารพาณิชย์มาแล้ว 3 ปีคิดจะรีไฟแนนซ์บ้าน และมีความต้องการติดตั้งโซลาร์ หรือ EV Charger ก็สามารถกรอกข้อมูลผ่านทางช่องทางออนไลน์ www.Refinn.com
โดยทางบริษัทจะนำข้อมูลลูกค้ามาทำการคำนวณเปรียบเทียบเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะกับลูกค้า และหากมีวงเงินที่เหลือจากการรีไฟแนนซ์ ก็สามารถนำมาผ่อนชำระในการติดตั้งโซลาร์ หรือ EV Charger ได้ในอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 3.99 % นับเป็นอีกทางเลือกเพิ่มเติมที่ช่วยให้ลูกค้านอกจากลดภาระดอกเบี้ยจากการรีไฟแนนซ์แล้ว ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย
สำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้ระหว่าง Refinn.com และเสนา โซลาร์ฯนับเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับทางลูกค้าได้อย่างมาก โดยได้เล็งเห็นว่าผลิตภัณฑ์ โซลาร์ และ EV Charger เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าที่ทำการติดตั้ง ซึ่งก็ตรงกับเป้าหมายในทางธุรกิจของบริษัทที่ต้องการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มลูกค้าว่า รีฟินน์ เป็นมากกว่าการรีไฟแนนซ์ มีบริการข้อมูลสินเชื่อที่หลากหลาย รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า เช่น สินเชื่ออเนกประสงค์บ้านแลกเงิน เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ้าน/คอนโด ที่ปลอดภาระ (ผ่อนหมดแล้ว) ลูกค้าสามารถนำมาจำนองกับธนาคาร เพื่อขอเงินกู้ และนำไปใช้จ่ายอเนกประสงค์ เช่น ต่อเติมบ้าน หรือปิดหนี้บัตรเครดิต หรือนำไปใช้จ่ายเพิ่มเติมในการหาผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้ประหยัดเงิน และลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ นับเป็นอีกทางเลือกในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของลูกค้าให้คุ้มค่า และประหยัดที่สุด