"โซนิค อินเตอร์เฟรท"เล็งขายหุ้น IPO 150 ล้านหุ้นเข้าตลาด mai ใช้ลงทุนไอที-ตั้งสาขา-ซื้อรถขนส่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 24, 2018 11:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150,000,000 หุ้น คิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะเข้าจดทะเบียในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.โกลเบล็ก เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

SONIC ประกอบธุรกิจให้บริการการจัดการอำนวยความสะดวกระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรโดยครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง (Total Logistics Service Provider) โดยเป็นผู้บริหารจัดการเคลื่อนย้ายสินค้าทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไปสู่ผู้ประกอบการ (Business to Business- B2B) ผ่านช่องทางการขนส่งทางทะเลทั้งแบบเต็มตู้และไม่เต็มตู้ ซึ่งรวมไปถึงการขนส่งแบบเทกอง การขนส่งทางอากาศ และการขนส่งทางบกโดยรถบรรทุกหัวลากและรถบรรทุกหางลาก

บริษัทมีบริษัทย่อย คือ บริษัท แกรนด์ลิงค์ จำกัด (GRANDLINK) โดย SONIC ถือหุ้นในสัดส่วน 93.70% ประกอบธุรกิจให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร (Total Logistics Service Provider)

บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศคาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในช่วงไตรมาส 1/62 ใช้เงินลงทุน 20 ล้านบาท, พัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าในงบลงทุนจำนวนประมาณ 60 ล้านบาทในปี 62 , ซื้อที่ดินและอาคารสำหรับอาคารสาขาที่แหลมฉบังคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 60 ล้านบาท, ซื้อรถขนส่งสำหรับธุรกิจขนส่งทางบก ทั้งรถบรรทุกหัวลาก หางลาก และรถบรรทุก ภายในปี 62 คาดว่าจะใช้งบลงทุน 60 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

บริษัทยังมุ่งเน้นจะพัฒนาการให้บริการอย่างครบวงจรโดยร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้บริการขนส่งข้ามแดนเชื่อมต่อโดยการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศในบริการคราวเดียว (Land-Air) เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ และให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าซึ่งจะนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจต่อไปในอนาคต และมีเป้าหมายร่วมทุนพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และในกลุ่มประเทศ ASEAN

ณ วันที่ 28 ก.พ.61 บริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 290 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 580,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 200 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 400,000,000 หุ้น ทั้งนี้ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทจะมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 275 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 550,000,000 หุ้น

โครงสร้างผู้ถือหุ้นนั้น มีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ กลุ่มครอบครัวโฆษิอาภานันท์ ถือหุ้น 85.60% ภายหลังการเสนอขาย IPO จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 62.23% และภายหลังการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิจะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 59.03%

อนึ่ง ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 23 พ.ย.60 มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญให้แก่พนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย (ESOP Warrant) จำนวน 30,000,000 หน่วย และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 30,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรับรองการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะเสนอขายให้แก่พนักงานของบริษัทฯ

ผลประกอบการของบริษัทในช่วงปี 58-60 ปรากฏว่า รายได้จากการให้บริการรวมเพิ่มขึ้นจาก 867.11 ล้านบาทในปี 58 มาเป็น 964.30 ล้านบาทในปี 60 โดยรายได้หลักมาจากบริการจัดการขนส่งสินค้าทางเรือ รองลงมาเป็นการขนส่งสินค้าทางบก ส่วนกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 55.97 ล้านบาทในปี 58 มาเป็น 70.73 ล้านบาทในปี 60 ขณะที่กำไรสุทธิลดลง เนื่องจากปี 58 บริษัทมีรายการพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน

ณ สิ้นปี 60 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 579.81 ล้านบาท หนี้สิน 312.64 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 267.17 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ