ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 19.55 จุด รับแรงขายจากกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ ,จับตาปัจจัยสถานการณ์สหรัฐฯ-อิหร่านกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 8, 2018 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,760.25 จุด ลดลง 19.55 จุด (-1.10%) มูลค่าการซื้อขาย 61,224.79 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,782.08 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,756.72 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 327 หลักทรัพย์ ลดลง 1,033 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 321 หลักทรัพย์

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีฯปรับตัวลดลง รับแรงขายจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีที่ปรับตัวลดลงกดดันตลาด โดยมีปัจจัยมาจากทางสหรัฐฯที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจที่จะประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและใช้มาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ ส่งผลให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีออกมามาก

โดยส่วนหนึ่งคาดว่าจะมาจากแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศที่เป็นผู้ซื้อส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทย และมีการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยไว้อยู่มาก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงการตัดสินใจของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศว่าจะซื้อหรือขายหุ้นออกมา โดยที่ในวันนี้มองว่าแรงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ออกมาจะมาจากแรงขายของนักลงทุนสถาบันในประเทศ จากจังหวะของปัจจัยภายนอกที่สร้างความไม่แน่นอนต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว และช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากแล้ว จึงได้ตัดสินใจเทขายออกมาในวันนี้

วันนี้ดัชนีหุ้นไทยมีทิศทางการเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น นอกเหนือจากตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ที่ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) นายศราวุธ คาดว่า จะเห็นภาพการซึมตัวต่อเนื่องของดัชนีฯไปตลอดทั้งสัปดาห์ จากปัจจัยภายนอกที่มีความไม่แน่นอนเข้ามากระทบ และความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยที่ลดลงจากราคาหุ้นในตลาดที่ถือว่าค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค

แม้ว่าในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยจะยังให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก 1-2% เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ผลตอบแทนติดลบ 12% และตลาดหุ้นอินโดนีเซียผลตอบแทนติดลบ 8% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พร้อมให้แนวต้าน 1,770 จุด แนวรับ 1,720 จุด โดยที่ปัจจัยที่ต้องติดตามยังคงเป็นเรื่องการตัดสินใจของสหรัฐฯต่อข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีนี้

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 7,086.64 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท ลดลง 1.25 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,759.03 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท ลดลง 6.50 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,181.30 ล้านบาท ปิดที่ 94.00 บาท ลดลง 3.50 บาท

IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,678.89 ล้านบาท ปิดที่ 59.25 บาท ลดลง 1.75 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,905.69 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท ลดลง 1.25 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ