SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,751.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 71,213.15 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้จากแรงซื้อหุ้น PTTEP เป็นหลักรับอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น แต่ภาพรวมตลาดยังวิตกเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) หลัง Bond Yield ของสหรัฐฯ ยังพุ่งเกิน 3% รวมถึงกังวลเศรษฐกิจกลุ่ม Emerging Market อาจชะลอตัวทำให้เกิด Sentiment ลบกระทบต่อตลาดหุ้นไทยด้วย อย่างไรก็ตามด้วยเศรษฐกิจของไทยที่ยังดีกว่ากลุ่ม น่าจะช่วยจำกัดการปรับตัวลงได้ แต่ระยะสั้นวันพรุ่งนี้ดัชนีน่าจะยังแกว่งในกรอบ 1,740-1,765 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,751.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 71,213.15 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,757.97 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,745.45 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 579 หลักทรัพย์ ลดลง 696 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 428 หลักทรัพย์
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาได้จากแรงซื้อในหุ้น PTTEP เป็นหลักหลังได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ภาพรวมของตลาดยังวิตกเงินทุนไหลออกจาก Emerging Market หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯยังพุ่งเกินระดับ 3% ประกอบกับ กังวลการขยายตัวของเศรษฐกิจกลุ่ม Emerging Market ที่อาจชะลอตัวลง ทำให้เป็น Sentiment เชิงลบที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยไปด้วย
อย่างไรก็ตามด้วยเศรษฐกิจของไทยที่ยังขยายตัวได้ดีกว่า และเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ฐานะการเงินการคลังก็ยังดีกว่ากลุ่ม Emerging Market ทำให้คาดว่าโอกาสการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยจะไม่นานนัก ประกอบกับในวันที่ 21 พ.ค.สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิตจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/61 คาดว่าจะเติบโต 4.2% อีกทั้งวันที่ 23 พ.ค.ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติตีความร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งหากไม่ขัดรัฐธรรมนูญก็จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น เพราะจะทำให้การเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้น
ขณะที่ตลาดยังมีแรงขายออกมาในหุ้นกลุ่มหลัก ทั้งสื่อสาร ,ธนาคาร และพาณิชย์ กดดันให้ตลาดหุ้นไทยไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้มากนัก คาดว่าจากนี้น่าจะยังคงมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอยู่
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบบริเวณ 1,740-1,765 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 6,826.50 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 6,203.94 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,969.85 ล้านบาท ปิดที่ 6.80 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,191.21 ล้านบาท ปิดที่ 81.75 บาท ลดลง 1.75 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,584.54 ล้านบาท ปิดที่ 96.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท