(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งซึมลงรับแรงกดดัน Bond Yield ไทยขึ้นเร็วสะท้อนบาทอ่อนกดดันเงินทุนไหลออก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 23, 2018 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว และมีโอกาสที่จะซึมตัวลงได้ จากแรงกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของไทย (Bond Yield) ได้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็ว โดย Bond Yield พันธบัตรอายุ 10 ปีนับตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.ปรับขึ้นจาก 2.4% มาอยู่ที่ 2.74% ขณะที่ Bond Yield พันธบัตรอายุ 2 ปรับขึ้นจาก 1.32% ล่าสุดมาอยู่ที่ 1.74% สะท้อนทิศทางเงินบาทอ่อนค่า และเงินทุนก็มักจะไหลออก ทำให้าสกัดกั้นการฟื้นตัวของดัชนีฯ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งอาจมาจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่า กดดันให้เงินทุนไหลออกทั่วทั้งเอเชีย ไปจนกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.นี้ และต้องรอดูว่าจะมีการส่งสัญญาณอย่างใดออกมาหรือไม่

สำหรับบ้านเราวันนี้ให้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติตีความร่างกฎหมายที่มา ส.ว.แต่คาดว่าจะยังไม่จบภายในวันเดียว พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,740-1,775 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 พ.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,834.41 จุด ลดลง 178.88 จุด (-0.72%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,724.44 จุด ลดลง 8.57 จุด (-0.31%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,378.46 จุด ลดลง 15.58 จุด (-0.21%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 91.55 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.91 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 42.48 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 35.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 2.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.63 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 27.42 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 พ.ค.61) 1,760.71 จุด ลดลง 7.60 จุด (-0.43%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,558.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 พ.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 พ.ค.61) ปิดที่ 72.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 11 เซนต์ หรือประมาณ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 พ.ค.61) ที่ 6.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.02/03 แนวโน้มแข็งค่าตามทิศทางภูมิภาค รอติดตามรายงานประชุมเฟดคืนนี้
  • สัปดาห์นี้เตรียมประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อพิจารณามาตรการลดผลกระทบที่เกิดจากราคาน้ำมันปรับตัวเป็นขาขึ้น และอาจสูงเกิน 80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอาจสูงเกินลิตรละ 30 บาท โดยจะเสนอใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงช่วยลดภาระให้ขึ้นราคาขายปลีกเท่ากับ 50% ของราคาที่ควรจะเพิ่มขึ้น
  • พาณิชย์เผยส่งออกเม.ย.โต 12.3% ขณะยอดเฉลี่ย 4 เดือนแรกโตสูงสุดรอบ 7 ปี อานิสงส์สินค้าเกษตรหนุน โดยเฉพาะ"ทุเรียน"ส่วนนำเข้าขยายตัว 20% ผลจาก ราคาน้ำมันพุ่ง ขณะยอดนำเข้าสินค้าทุนเพิ่ม ด้าน"แบงก์ชาติ"จ่อปรับประมาณการส่งออกเพิ่ม มองขาดดุลการค้าไร้ข้อกังวล เหตุจากนำเข้าสินค้าทุนเพิ่ม เป็นสัญญาณดีการลงทุนเอกชน
  • นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปีนี้มีโอกาสมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 9.9 แสนล้านบาท เพราะไตรมาสแรกมีกำไรรวม 2.87 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.37% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2.86 แสนล้านบาท
  • ตร.-ทหารคุมเข้มทำเนียบรับม็อบอยากเลือกตั้ง จนท.นับพันสกัดหน้าธรรมศาสตร์ เกิดชุลมุนห้ามเคลื่อน แกนนำแถลงการณ์เรียกร้อง 5 ข้อ เจอแจ้งจับ เจรจายอมมอบตัว ฝ่าย กม.คสช.ฟ้อง 14 แกนนำขัดคำสั่งชุมนุมเกิน 5 คน 'บิ๊กตู่' พอใจผลงาน คสช.4 ปี ยืนกรานเลือกตั้งต้นปี'62 ไม่มีเร็วกว่านี้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • DCC-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ไดนาสตี้เซรามิค (DCC)) มีจำนวน 2,611,186,664 หน่วย อายุ 3 ปี ราคาใบฤสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย มีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 1.15 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 8 พ.ค.62 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 7 พ.ค.64
  • GGC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 18.2 บาท เก็งกำไรข่าวภาครัฐเตรียมออกมาตรการตึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศและเพิ่มสัดส่วนการในใช้น้ำมันไบโอดีเซลด้วยการเพิ่มสัดส่วนจาก B7 เป็น B20 คาดเป็นบวกต่อผู้ประกอบการที่ผลิต B100 โดยเฉพาะ GGC ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากไบโอดีเซลสูงถึง 60% ของรายได้รวม
  • GPI (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 4.70 บาท ปี 61 คาดกำไรโต 14.5%YoY หลังการจัดงานแสดงสินค้า Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 39 ได้รับกระแสตอบรับดีมาก และยังมีแผนรุกธุรกิจจัดแสดงด้านยานยนต์ที่เมียนมาร์ "Yangon International Motor Show" ในช่วง Q3/61 เป็นครั้งแรก อีกทั้งยังมีโอกาสแสวงหางานพิมพ์พิเศษเพิ่มขึ้น
  • CK (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 29 บาท มองบวกมากขึ้นจากประมูลโครงการภาครัฐคืบหน้า งานในมือ ณ สิ้นไตรมาส 1/61 อยู่ที่ 65.4 พันลบ.คิดเป็น 2 เท่าของประมาณการรายได้ทั้งปี 61 ที่ 32.6 พันลบ.แนวโน้มต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้นทำให้ CK พยายามล็อคราคาวัสดุที่จำเป็นเพิ่มขึ้น และยังเชื่อบริหารจัดการให้อยู่ในระดับ 8-10% นอกจากนี้ยังมีงานก่อสร้างจากบริษัทภายในกลุ่มที่อยู่ระหว่างเจรจาอีกหลายโครงการ ทำให้แนวโน้มของรายได้ก่อสร้างแข็งแรงขึ้น จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 61-63 ที่ 1.4 พันลบ./1.8 พันลบ./2.0 พันลบ. หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 10.9% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ