นายพงศ์ปิติ เอกเธียรชัย ผู้อำนวยการงานส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนและวิสาหกิจเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในฐานะผู้อำนวยการ บริษัท ไลฟ์ ฟินคอร์ป จำกัด กล่าวว่า LiVE แพลตฟอร์มของ ตลท.ได้รับการตอบรับที่ดีหลังจากเปิดตัวในช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จากทั้งในงาน Startup Thailand 2018 และงาน SME Transform ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในงานดังกล่าวได้มีการเชิญกลุ่มผู้ลงทุนประเภท Venture Captital (VC) ที่ปัจจุบันมีการลงทุนใน Startup อยู่แล้ว และบริษัทที่สนใจเข้ามานำเสนอโครงการผ่าน LiVE แพลตฟอร์มมาพูดคุยกัน หลังจากนั้นได้รับแจ้งจากบริษัทที่สนใจเข้ามาร่วม LiVE แพลตฟอร์มในกลุ่มแรกว่ามีผู้ลงทุนสนใจติดต่อกับบริษัทเหล่านั้นโดยตรงเพื่อจะลงทุน
พร้อมกันนั้น ไลฟ์ ฟินคอร์ป ยังได้รับประสานงานจาก VC บางแห่งที่สนใจแนวคิดของบริษัทในการหาพันธมิตรเข้ามาช่วยงาน โดยเฉพาะการเป็นผู้สนับสนุน (Sponsership) และ VC บางรายก็สนใจเข้าลงทุนใน Startup บางราย ซึ่งในส่วนของ Sponsership คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า
"มี Investor เข้ามาหาเลย คือเข้ามาหาแล้วก็แสดงความสนใจที่จะร่วมลงทุนด้วย แล้วก็มี Angel investor ซึ่งบางท่านเท่าที่คุยดูคือเป็นคนที่มีความชำนาญ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่บริษัทเหล่านั้นดำเนินการอยู่ และมีความสนใจส่วนตัวที่จะลงทุนเพื่อที่จะช่วยกิจการเหล่านั้น จะเห็นได้ว่าตัว demand ของผู้ลงทุนที่สนใจในธุรกิจเหล่านี้ยังมีอยู่พอสมควรเลย ก็เป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ สามารถที่จะมองหาผู้ลงทุนได้"นายพงศ์ปิติ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วง LiVE แพลตฟอร์มเปิดตัวไปนั้น มีกิจการที่ต้องการเงินทุนเข้ามาลงทะเบียนในระบบ 50 ราย แต่จนถึงวันนี้ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 รายแล้ว เช่นเดียวกับฝั่งผู้ลงทุน จากเดิมที่มีผู้เข้ามาลงทะเบียนประมาณ 40-50 ราย ขณะนี้ก็เพิ่มขึ้นมาเป็นกว่า 100 ราย
สำหรับกลุ่มกิจการที่เข้ามาลงทะเบียนมีทั้งผู้ประกอบการ Startup และ SME ซึ่งบางส่วนมีไอเดียที่สามารถเริ่มโครงการได้ แต่บางส่วนอาจยังต้องมีการพูดคุยเพิ่มเติม เพราะกิจการที่เข้ามาใช้แพลตฟอร์มควรจะมีผลิตภัณฑ์ในมือที่สามารถจะนำเสนอผู้ลงทุนได้ทันที ส่วนกลุ่ม Startup ที่มีความพร้อมจะเข้ามาใช้แพลตฟอร์ม 8 รายแรกนั้น ขณะนี้มี 3-4 รายที่มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนแล้ว ซึ่งทางไลฟ์ ฟินคอร์ปคาดว่าจะมีแคมเปญเพื่อกระตุ้นเพิ่มเติมในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้
นอกจากนักลงทุนในประเทศแล้ว ในงาน Startup Thailand ยังได้เชิญทาง Startup จากต่างประเทศเข้ามาร่วมงานด้วย ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีเพราะ Startup ไทยกับต่างประเทศได้มีโอกาสพูดคุยกัน และมีบางรายที่มีการเจรจาทำดีลกันทำให้ต่อยอดเกิดการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศเพิ่มเติม
"ถือว่าเป็นสิ่งที่ ตลท.พยายามที่จะดูแลนอกเหนือจากการระดมทุน (funding) เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถที่จะประชาสัมพันธ์ตัวเอง และขยายฐานลูกค้าได้ด้วย ตรงตามแนวคิดที่ต้องการให้ธุรกิจที่อยู่กับตลท.เติบโตขึ้น เป็นสิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของเราด้วย"นายพงศ์ปิติ กล่าว
https://www.youtube.com/watch?v=ICsrsUI8DWU