(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบคล้าย ตปท.วิตกแรงขายต่างชาติ แต่ยังมีข่าวดีคำวินิจฉัยศาลรธน.หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 24, 2018 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบในลักษณะทรงตัว เหตุกังวลแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังมากอยู่ แต่บ้านเราอาจได้รับแรงหนุนจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างกฏหมายที่มา ส.ว.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นข่าวดีทำให้การเลือกตั้งจะไม่เลื่อนออกไป แต่ก็ต้องรอลุ้นอีกครั่ง 30 พ.ค.นัดวินิจฉัยร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.

ด้านตลาดต่างประเทศเช้านี้ส่วนใหญ่รีบาวด์แต่ไม่มาก เป็นไปในลักษณะทรงตัว ต่างจับตาทิศทางราคาน้ำมันจะแผ่วลงบ้างหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังอยู่ในระดับสูงจากวิกฤตในเวเนซูเอล่า และสหรัฐฯจะคว่ำบาตรอิหร่าน นอกจากนี้ยังต้องติดตามเรื่องการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,753-1,750 จุด ส่วนแนวต้าน 1,760 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 พ.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,886.81 จุด เพิ่มขึ้น 52.40 จุด (+0.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,733.29 จุด เพิ่มขึ้น 8.85 จุด (+0.32%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,425.96 จุด เพิ่มขึ้น 47.50 จุด (+0.64%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 68.45 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.02 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 53.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.57 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.07 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 13.20 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 พ.ค.61) 1,753.60 จุด ลดลง 7.11 จุด (-0.40%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,960.34 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พ.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 พ.ค.61) ปิดที่ 71.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 พ.ค.61) ที่ 6.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.12 ทรงตัวจากวานนี้ แต่แนวโน้มอ่อนค่าตามยูโร มองกรอบวันนี้ 32.05-32.15
  • ทีวีดิจิทัล 20 ช่อง ตบเท้ายื่นหนังสือขอพักชำระไลเซ่นส์ หลัง คสช.ไฟเขียวออก ม.44 ช่วยพักชำระไม่เกิน 3 ปี ช่วยค่าโครงข่าย 50% เป็นเวลา 2 ปี ขณะช่องเรตติ้งดี 7-เวิร์คพ้อยท์จ่ายแล้ว ติดดาบ กสทช.ฟันธงช่องไหนได้พักชำระหนี้หรือไม่ "ฐากร" แจง กสทช.ต้องยึดคำสั่งคสช. ขณะนักวิชาการชี้ ช่วยต่อลมหายใจผู้ประกอบการ
  • กระทรวงอุตสาหกรรมแถลงเปิดตัวรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินวันนี้เริ่มขั้นตอนเปิดประมูลสัปดาห์หน้า เม็ดเงิน 2.2 แสนล้านบาท "คมนาคม"เผยสัดส่วนต่างชาติร่วมทุนเคาะไม่ต่ำกว่า 50% แต่ต้องมีคนไทยร่วมถือหุ้นไม่น้อยกว่า 25% หวังเปิดกว้างการลงทุนคึกคัก คาดไม่เกิน ต.ค.นี้เปิดยื่นซอง ขณะ"บีทีเอส"นำกลุ่ม"บีเอสอาร์"ลุยประมูลทุกโครงการ
  • นายกรัฐมนตรี เผยการที่ราคาน้ำมันในขณะนี้ปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่ารัฐบาลใดก็บังคับไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับกลไกการค้าโลก จึงต้องเข้าใจกลไกเหล่านี้ หากไม่เข้าใจก็จะถูกบิดเบือนไปจนเกิดปัญหา
  • กรมทางหลวงยันประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมซื้อซองมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ วงเงิน 8 หมื่นล้านในปลายปี 61 ก่อนเปิดประมูลโครงการในเดือน ก.พ.62 มั่นใจแล้วเสร็จสามารถรองรับภาคอุตสาหกรรมและท่องเที่ยวได้ คาดมีปริมาณการจราจรเฉลี่ย 43,673 เที่ยวคัน/วัน ในปีแรกเปิดให้บริการ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BEM (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 8.6 บาท เก็งกำไรข่าววันนี้ภาครัฐเตรียมเปิดร่างเงื่อนไขการประมูล (TOR) โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ และ อู่ตะเภา) เป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาและเข้าร่วมประมูล มองกลุ่ม BEM ซึ่งจับมือกับ CK ยังเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะชนะการประมูล
  • CPN (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 93 บาท กำไร Q1/61 สะท้อนความแข็งแกร่งในทุกธุรกิจ ทั้งศูนย์การค้า คอนโดฯ โรงแรม และอาหาร รวมถึงการควบคุมที่ทำได้มีประสิทธิภาพ หนุน Gross Margin และ EBITDA Margin สูงถึง 50.2% และ 59.1% ซึ่งโมเมนตัมนี้จะต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี คาดกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 1.2 หมื่นลบ. +22% Y-Y ส่วนแผนเติบโตระยะยาวน่าสนใจ ล่าสุดตั้งเป้าลงทุน 1 แสนลบ. ใน 5 ปี โดยจะพัฒนาคอนโดฯปีละ 3 แห่ง และ Mix used ปีละ 2 แห่ง ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่เช่าจากปัจจุบันอีก 1.4 เท่าตัวในปี 2565
  • MINT (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 50 บาท แจ้งลงทุนใน NH Hotel Group มูลค่า 192 ล้านยูโร ทำให้ปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 8.64% จะช่วยขยายธุรกิจโรงแรมให้ครอบคลุมระดับโลกมากขึ้น พร้อมเกิด Synergy ในหลายด้านในระยะยาว ขณะที่ระยะสั้นดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากกู้ยืมคาดจะถูกหักล้างบางส่วนด้วยการรับรู้เงินปันผลจาก NH Hotel ทำให้ยังไม่กระทบต่อประมาณการอย่างมีนัยฯ จึงคาดปีนี้กำไรยังโต 12.5%YoY + Upside 39%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ