AYF ออกกองทุนใหม่เน้นลงทุนหุ้นลาตินอเมริกา เหตุราคาถูก-สินค้าโภคภัณฑ์เด่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 20, 2010 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประภาส ตันพิบูลศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา (AYF)เปิดเผยว่า บริษัทร่วมกับธนาคารซิตี้แบงก์ เปิดกองทุนใหม่ที่เน้นการลงทุนหุ้นในลาตินอเมริกา"กองทุนเปิดอยุธยาลาตินอเมริกาอิควิตี้"เสนอขายหน่วยลงทุน 25 ม.ค.-5 ก.พ.53 ซึ่งเป็นกองแรกของไทยที่ลงทุนในลาตินอเมริกา

การที่เลือกลงทุนในประเทศแถบลาตินอเมริกา เพราะเป็นภูมิภาคที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ สามารถผลิตและส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภทอันดับต้นๆ ของโลก เช่น น้ำมัน ก๊าซ เอทานอล เหล็ก ทองแดง และสินค้าเกษตร เช่น กาแฟ น้ำตาล ถั่วเหลืองซึ่งราคาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะประเทศบราซิลที่มีศักยภาพเติบโตสูงและได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกถึง 2 งาน คือ World Cup ปี 2014 และกีฬาโอลิมปิก ปี 2016

"commodity จะขับเคลื่อนความมั่งคั่งของลาตินอเมริกา เพราะราคา commodity มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาหุ้นยังถูก ค่า PE ตลาด 13 เท่าต้นๆ การเติบโตของผลประกอบการมากกว่า PE ตลาด"นายประภาส กล่าว

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงการลงทุน คือราคา commodity เพราะราคาปรับขึ้นไปมาก แต่มองว่าถ้าราคาปรับลดลงอาจจะมีคนเข้าซื้อ ซึ่งคาดว่าในอนาคต บลจ.หลายแห่งคงจะออกกองทุนหุ้นในลาตินอเมริกามากขึ้น และการที่บราซิลได้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะสามารถขับเคลื่อนการลงทุนได้มาก

น.ส.แจส ลิม รองผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลธนกิจ ส่วนเงินฝากและการลงทุน ธนาคารซิตี้แบงก์ ในฐานะตัวแทนสนับสนุนการขาย กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงดำเนินต่อไปในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีอัตราเติบโตถึง 3.2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล และเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนยังให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นมากกว่า เพราะปี 53 จะเห็นผลประกอบการฟื้นตัว คาดหุ้นยังให้ผลตอบแทนดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล ระดับราคายังน่าสนใจ และคาดว่าธนาคารกลางแต่ละประเทศจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างช้าๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป

สำหรับการลงทุนในลาตินอเมริกา คาด PE ตลาดจะลดลง เพราะ earning จะปรับตัวสูงขึ้นกว่า PE ตลาด ซึ่งตอนนี้ PE ตลาด อยู่ที่ 13.6 เท่า ลดลงจากปลายปีที่แล้วที่ 13.9 เท่า บวกกับการเติบโตของผลกำไรบริษัทจดทะเบียน โดยอัตราเติบโตของผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 21.8% และคาดว่าปรับขึ้นต่อในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นปีนี้อาจจะต่ำกว่าปี 52 เพราะเป็นปีที่ 2 ที่ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ธนาคารยังมีมุมมองในแง่ดีต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยใช้การปรับฐานเป็นโอกาสในการลงทุน

"กลยุทธ์ปีนี้อยากให้ลาตินอเมริกาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุนในพอร์ตลูกค้า แต่เน้นว่าต้องกระจายความเสี่ยง"น.ส. แจส กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ