โบรกฯหนุน"ซื้อ"CPN ธุรกิจยังโตต่อเนื่อง-ปิดลาดพร้าวกระทบรายได้เล็กน้อย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 5, 2010 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์หนุนซื้อหุ้น บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN)จากมุมมองแนวโน้มเติบโตได้ดีต่อเนื่องในปีนี้ แม้จะมีการปิดปรับปรุงสาขาลาดพร้าวตั้งแต่เดือน เม.ย.53 เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะกระทบต่อการทำกำไรของบริษัท แต่ทั้งปี 53 คาดว่ากำไรของบริษัทจะออกมาใกล้เคียงปี 52 จากการเปิดให้บริการศูนย์การค้าใหม่ 4 แห่งในปีก่อน และมีรายได้จากการเปิดโรงแรมฮิลตัน บีช พัทยา ที่จะเริ่มเข้ามาในไตรมาส 3/53

พร้อมกันนั้น ยังประเมินว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตขึ้นอย่างมากในปี 54 หลังจากห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวโฉมใหม่เปิดให้บริการแล้ว และจะมีการปรับขึ้นค่าเช่าเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป อีกทั้งยังมีโครงการขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในอนาคต

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ซิกโก้              ซื้อ              29.00
          บล.กิมเอ็ง             ซื้อ              24.50
          บล.ธนชาต             ซื้อ              30.00
          บล.ไอร่า              ซื้อเก็งกำไร       21.40
          บล.โกลเบล็ก           ซื้อ              29.00

นายบุรพัฒน์ จรัสฉิมพลีกุล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ กล่าวว่า ผลประกอบการของ CPN ในปี 52 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,801 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.4% โดยไม่รวมรายได้จากการขายสาขาปิ่นเกล้าเข้ากองทุนอีก 3,206.9 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิหากไม่รวมรายการพิเศษจะอยู่ที่ 698.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.6%

อย่างไรก็ตาม ในปี 53 คาดว่ารายได้ของ CPN จะลดลงเหลือ 10,783 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน หรือเป็นกำไรสุทธิ 2,710 ล้านบาท ลดลงจากปี 52 เล็กน้อย เนื่องจากไม่มีรายได้พิเศษและรายได้ลดลงจากการปิดปรับปรุงเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากส่วนนี้แค่ครึ่งปี แต่จะรับรู้รายได้เต็มปีจาก 4 สาขาใหม่ที่เปิดในปี 52 และการเปิดโรงแรมฮิลตัน บีช พัทยา ในไตรมาส 3/53 เข้ามาชดเชย

"เรายังแนะนำซื้อ CPN เนื่องจากมองระยะยาวบริษัทยังมีการเติบโตได้ดี แม้ปี 53 จะมีรายได้ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากหลังการปรับปรุงเซ็นทรัลลาดพร้าวแล้ว ทำให้การรับรู้รายได้เหลือแค่ครึ่งปี แต่คาดว่าหลังปรับปรุงเสร็จจะมีการปรับขึ้นค่าเช่าอีก 15% ซึ่งจะช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป"นายบุรพัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ CPN ยังมีแผนนำสาขาเชียงใหม่มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท เข้ากองทุน CPNRF และการขยายการลงทุนในต่างประเทศที่จะส่งผลต่อรายได้ในอนาคต

นางสาวดาวดี ธีรอภิศักดิ์กุล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไร CPN ในปี 52 เพิ่มขึ้น 127% เป็น 4,952 ล้านบาท เกิดจากรายการพิเศษที่เกิดขึ้นในไตรมาส 4/52 รวมทั้งกำไร 66 ล้านบาทจากการลงทุนเพิ่มในกองทุนรวมธุรกิจไทย4 หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว กำไรของ CPN จะเท่ากับ 2,293 ล้านบาท (1.05 บาท/หุ้น) เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบปีก่อน เนื่องจากการเปิดโครงการใหม่ การปรับขึ้นค่าเช่า และ มีรายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจโรงแรมที่อุดรธานี ที่ลงทุนตั้งแต่เดือน เม.ย.52

อย่างไรก็ดี ค่าเสื่อมราคาของโครงการใหม่ๆ และค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นของเซ็นทรัลลาดพร้าวส่งผลให้อัตรกำไรขั้นต้นลดลงจาก 43.1% ในปี 51 เหลือ 38.8%

ในปี 53 คาดผลประกอบการของ CPN จะทรงตัว โดยการทำกำไรจะใกล้เคียงกับปี 52 ที่ 2,283 ล้านบาท แม้มีการปิดปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวเป็นเวลา 6 เดือนเริ่มตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.-ต.ค.53 และไม่มีรายได้จากเซ็นทรัลปิ่นเกล้า เพราะได้โอนเข้า CPNRF ไปแล้ว แต่รายได้คาดว่าจะได้แรงขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การปรับขึ้นค่าเช่า และ การรับรู้รายได้เต็มปีจาก 4 โครงการที่เปิดในปีที่ผ่านมา อีกทั้งจะมีการเปิดโรงแรมฮิลตัน บีช พัทยา ในช่วงไตรมาส 3/53

ทั้งนี้ มองว่ากำไรของ CPN จะฟื้นตัว 21% หรือเพิ่มเป็น 2,753 ล้านบาทในปี 54 จากการที่เซ็นทรัลลาดพร้าวกลับมาเปิดอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 4/53 อีกทั้งจะมีเปิดโครงการใหม่ที่ จ.เชียงราย

ด้าน บล.ธนชาต ออกบทวิเคราะห์ว่า คาดว่าปี 53 กำไรปกติของ CPN จะลดลง 12% นื่องจากการปิดสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว 6 เดือน ซึ่งเป็นสาขาที่ทำรายได้หลักของบริษัทฯ แต่มองว่า CPN เป็น long-term asset play ที่ดี และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรเป็น 2 เท่าภายในปี 56 เนื่องจากการเปิดสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีจำนวนสาขาทั้งหมด 20 สาขา ภายในช่วงไตรมาส 1/56 จาก 10 สาขาในปี 51


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ