หุ้นกลุ่มเหล็กดีดตัวรับผลผลิตเหล็กรีดร้อนรีดเย็นต้นปีเติบโตดี ขณะที่ราคาเหล็กเส้นสูงขึ้น โบรกฯ มองรับแนวโน้มราคาสินแร่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายรถยนต์พุ่งไม่ได้ส่งผลบวกในแง่ปัจจัยพื้นฐาน
ปิดตลาดภาคเช้าวันนี้ SSI บวก 6.90% มาที่ 1.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท
BSBM บวก 0.68% มาที่ 1.48 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท
TSTH บวก 2.23% มาที่ 1.83 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท
GSTEEL บวก 12.50% มาที่ 0.36 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท
GJS บวก 18.75% มาที่ 0.19 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท
MILL บวก 2.24% มาที่ 2.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท
RICH บวก 14.29% มาที่ 0.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท
นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองว่า การที่ราคาหุ้นกลุ่มเหล็กหลายตัวปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากแนวโน้มราคาสินแร่เหล็กในช่วงต้นปีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก และอนาคตยังคงเติบโตได้ดี
ส่วนยอดผลิตรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มมากขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้นั้น ไม่น่าจะส่งผลต่อปัจจัยพื้นฐานของกลุ่มเหล็กมากนัก เนื่องจากผู้ผลิตเหล็กของไทยไม่ได้ผลิตเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์มากนัก
หุ้นเด่นยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น SSI และ BSBM โดย SSI ได้ประโยชน์จากการ GSTEEL มีปัญหาการผลิตทำให้ SSI ได้ประโยชน์เพราะได้คำสั่งซื้อจากฝั่งคู่แข่ง ทำให้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/53 ออกมาดีและภาพรวมทั้งปียังดีด้วย โดยราคาเป้าหมายที่ 1.50 บาท และ BSBM ราคาเป้าหมายที่ 1.80 บาท จากผลประกอบการโดดเด่นเช่นเดียวกัน
ขณะที่ข้อมูลจากบทวิเคราะห์ของบล.ยูไนเต็ด (ประเทศไทย) ระบุว่าผลผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนและรีดเย็นในประเทศ ม.ค. 52 +39%yoy เติบโตเป็นเดือนที่ 5 ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี 52 อย่างไรก็ตาม ราคาเหล็กในประเทศยังทรงตัวตามราคาเหล็กโลก ในกลุ่มนี้ ชอบ SSI ให้ราคาเป้าหมาย 1.45 บาท
ส่วนเหล็กเส้น (long steel)มีปริมาณจำหน่าย ม.ค. +14.6%yoy สอดคล้องกับผลผลิต+47.6%yoy คาดว่าราคาใน 1Q53 มีโอกาสปรับขึ้นเล็กน้อยจากการเก็งกำไรที่ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลกยอมตกลงปรับราคาสินแร่เหล็กขึ้น แต่ได้รับแรงกดดันจากการควบคุมสินเชื่อของจีนเพื่อลดการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กอาจชะลอตัวในช่วง 1Q53