ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 เม.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค. ดัชนีภาคบริการ และยอดการทำสัญญาซื้อบ้าน ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 46.48 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ระดับ 10,973.55 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.34 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 1,187.44 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 26.95 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ระดับ 2,429.53 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกเดือนมี.ค.ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ดัชนีกิจกรรมภาคบริการ และยอดการทำสัญญาซื้อบ้านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเข้าใกล้แนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 11,000 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เพิ่มขึ้น 162,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ทำสถิติเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 ปี และอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 9.7% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
รายงานของกระทรวงแรงงานบ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 17,000 อัตราในเดือนมี.ค. ส่วนการจ้างงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างยังทรงตัว หลังจากที่มีการเลิกจ้างงานโดยเฉลี่ย 72,000 อัตราต่อเดือนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศมีการจ้างงานลดลง 12,000 อัตรา
สำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนมี.ค. ซึ่งครอบคลุมถึงธุรกิจเฮลธ์แคร์ ค้าปลีก และธุรกิจบริการด้านการเงิน เพิ่มขึ้นแตะระดับ 55.4 จุด จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 53 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 54 จุด โดยดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคบริการและภาคธุรกิจมีการขยายตัว
นอกจากนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8.2% สู่ระดับ 97.6 จุด จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 90.2 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 90.3 จุด เพราะได้แรงหนุนจากนโยบายลดหย่อนภาษีที่กำลังจะหมดอายุลงในวันที่ 30 เม.ย.นี้
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้น 1.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเซาเทิร์น เอนเนอร์จี ซึ่งเป็นผู้ผลิตแก๊สธรรมชาติปิดบวก 3% หุ้นไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอสเซส ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและผลิตน้ำมันและแก๊ส ปิดพุ่ง 3.8%
ส่วนหุ้นแอปเปิล อิง ปิดบวก 1.1% หลังจากบริษัทสามารถทำยอดขาย "ไอแพด" คอมพิวเตอร์ แทบเล็ต ในวันแรกของการเปิดตัวที่สหรัฐได้กว่า 300,000 เครื่อง