โบรกฯแนะ"ซื้อ"AMATA คาดขายที่ดิน H2/53 สูงกว่าครึ่งปีแรกรับผลดียานยนต์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 8, 2010 16:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA)ประเมินยอดขายที่ดินในครึ่งปีหลังน่าจะได้มากกว่าครึ่งปีแรกที่ขายกว่า 200 ไร่ โดยประเมินว่าจะขายได้ 500-800 ไร่รับอานิสงส์จากอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลให้ซัพพลายเออร์ขยายการผลิตหรือย้ายโรงงานตามมา ซึ่งนิคมฯ อมตะรองรับลูกค้ากลุ่มยานยนต์อยู่แล้ว

รวมทั้งกระแสข่าวที่ Canadoil Group จะเข้ามาซื้อที่ดิน 400-500 ไร่เพื่อลงทุนตั้งโรงงาน ทั้งนี้ เชื่อว่าปีนี้ AMATA จะกลับมา Turnaround จากปี 53-54

ราคาหุ้น AMATA วันนี้ปิดที่ 10.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.35 บาท (+14.14%) มูลค่าซื้อขาย 515.50 ล้านบาท

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ       ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.บัวหลวง           ซื้อ               11.60
          บล.เกียรตินาคิน        ซื้อ               11.50
          บล.ทิสโก้             ซื้อ               11.20
          บล.เอเซียพลัส        เต็มมูลค่า           10.40

น.ส.วิชชุดา ปลั่งมณี ผู้จัดการส่วนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า จากกลุ่มอุตสสาหกรรมยานยนต์เติบโต ทำให้ AMATA รับผลดีที่จะมีผู้ผลิตชิ้นส่วนหรือซัพพลายเออร์ มีแนวโน้มเข้ามาซื้อที่ดินในนิคมอมตะ ที่มีลูกค้ากลุ่มยายนต์ 30-40% ทำให้คาดว่าจะขายที่ดินได้ทั้งปีนี้ประมาณ 500 ไร่ จากครึ่งปีแรกขายได้แล้วประมาณ 200 ไร่ ขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้าหมายปีนี้จะขายที่ดินได้ 800 ไร่ จากปีก่อนขายที่ดินได้ 253 ไร่

"มองระยะยาวตัวนี้ยังดี ถ้าพิจารณาจากการเติบโตจากลุ่มยายนต์ ...ยังซื้อได้ มองว่าเป็นหุ้น turnaround" น.ส.วิชชุดา กล่าว

ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มการฟื้นตัวผลประกอบการของยริษัทชัดเจนขึ้น โดยผู้ผลิตรถยนต์หลายรายขยายการผลิต ส่งผลให้ซัพพลายเออร์ของกลุ่มดังกล่าวเติบโตตามไปด้วย และอาจมีการลงทุนเพิ่ม ซึ่งจะทำให้ยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง เห็นว่า แนวโน้มในครึ่งหลังของปี 53 ของ AMATA คาดว่าจะดีกว่าในครึ่งแรกมาก โดยเฉพาะจากการประกาศลงทุนใหม่ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ เช่น โตโยต้า มิตซูบิชิ และ ฟอร์ด จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เพิ่มกำลังการผลิต หรือย้ายโรงงานผลิตเข้ามายังประเทศไทย

กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมฟื้นตัวเร็วและแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่ความต้องการขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมเพื่อสอดรับการส่งออกที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยหนุนให้ AMATA มียอดขายที่ดินเพิ่มขึ้นอีก 117 ไร่ในไตรมาส 2/53 ส่งผลให้ยอดขายที่ดินรวมในครึ่งแรกของปี 53 อยู่ที่ 252 ไร่

ดังนั้น AMATA มีแนวโน้มที่จะขายที่ดินได้มากกว่าที่ประมาณการ คาดว่าบริษัทน่าจะเซ็นสัญญาขายที่ดินประมาณ 350 ไร่ภายในไตรมาส 3/53 ดังนั้น เป้าหมายยอดขายที่ดินของเราที่ 600 ไร่ในปีนี้นั้นดูเหมือนว่าจะทำได้โดยไม่ยาก และบวกกับแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น จึงปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายที่ดินเป็น 800 ไร่สำหรับปี 53 และเป็น 1000 ไร่ (จาก 800 ไร่) สำหรับปี 54

ทั้งนี้ AMATA วางเป้าหมายยอดขายที่ดินที่ 900 ไร่สำหรับปี 53 ดังนั้น ประมาณการกำไรต่อหุ้นในปี 53-54 จึงถูกปรับเพิ่มขึ้น 36% และ 44% เป็น 0.67 และ 1.07 บาทตามลำดับ

อนึ่ง ประมาณการยอดขายที่ดินของเรายังไม่ได้รวมที่ดินขนาด 500 ไร่ที่อาจขายให้ Canadoil ซึ่งอาจรวมเข้ามาในปีหน้าหลังจากที่บริษัทผ่าน HIA

ขณะที่นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าว ราคาหุ้น AMATA ขณะนี้เทียบกับพี/อีสูงมาก จึงไม่แน่ใจว่าราคา AMATA ที่วิ่งขึ้นวันนี้มาจากเหตุใด อาจจะไปสนใจข่าวเดิม คือเรื่องที่จะขายที่ดินให้ Canadoil จำนวน 400-500 ไร่

มองว่านิคมอุตสาหกรรมแต่ละรายขายที่ดินให้กับรายใหญ่ส่วนใหญ่เป็นค่ายรถยนต์ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเห็นการเข้าซื้อที่ดินต่อเนื่องอย่างที่คาดการณ์กันไว้ หลังจากที่จบดีลการขายที่ดินให้กับลูกค้ารายใหญ่ไปแล้ว เราคิดว่าราคาเต็มมูลค่าแล้ว โดยผลประกอบการในไตรมาส 2/53 ก็คาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ