ทิสโก้คาดสินเชื่อรถยนต์โตทะลุเป้า 15% มาที่ 1.0-1.1 แสนลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 19, 2010 13:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารทิสโก้ ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ปีนี้เติบโตขึ้นเป็น 1.0-1.1 แสนล้านบาท ทะลุเป้า 15% โดยช่วง 7 เดือนแรกปรับขึ้นมาที่ 9.8 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าครึ่งปีหลังสินเชื่อจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรกตามธรรมชาติ ขณะที่สินเชื่อทะเบียนรถ(ทิสโก้ ออโต้ แคช)ตั้งเป้าสิ้นปีแตะ 5 พันล้านบาท จาก 7 เดือนแรกอยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1.96 พันล้านบาท

ณ สิ้นปี 52 พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ อยู่ที่ 8.7 หมื่นล้านบาท

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า สินเชื่อเช่าซื้อของทิสโก้ได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของตลาดรถยนต์เป็นอย่างมาก อีกทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรมาสด้า ฟอร์ด และเชฟโรเลต ที่มีอย่างต่เนื่องนั้น ทำให้ยอดสินเชื่อเช่าซื้อในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีการขยายตัวถึง 13% จากเป้าหมาย 10-15% และมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ทั้งรถใหม่และเก่าไม่ถึง 1.5%

ครึ่งปีหลังตลาดสินเชื่อเช่าซื้อจะมีการแข่งขันอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของรถยนต์ใหม่และรถยนต์เก่า เนื่องจากตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ขยายตัวได้ดีมาก คาดว่าจะทำยอดได้ในระดับ 7.25-7.50 แสนคัน ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด อีกทั้งเพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้า

นายชลิต ศิลป์ศรีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า ธนาคารจะเปิดแคมเปญ"เงินหมุน 0%งวดแรก"เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้ารายย่อยหรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง ซึ่งลูกค้าสามารถนำทะเบียนรถยนต์มาขอสินเชื่อได้ในระหว่าง 23 ส.ค.-31 ธ.ค.53 วงเงินตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป โดยจะสามารถชำระค่างวดถูกกว่าเมื่อเทียบกับค่างวดเช่าซื้อทั่วไป และยังไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน

สำหรับแนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจากนี้ไปในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ทุกครั้งจนถึงปลายปีนี้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% โดยในช่วงเดือน ส.ค.นี้ ธนาคารเองก็ได้ปรับดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อไปแล้ว 0.05-0.10% และจะมีการปรับขึ้นอีกตามการชี้นำนโยบายการเงิน แต่ด้วยการแข่งขันที่รุนแรง อาจทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้ไปเป็นในอัตราเดียวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ