BCP ตั้งบ.ย่อยร่วมลงทุนโครงการโซลาร์เซลล์ในญี่ปุ่น กำลังผลิต 60 MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 30, 2015 09:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) ตั้งบริษัทย่อยเข้าร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ขนาด 60 เมกะวัตต์ โดยจะเป็นการร่วมลงทุนกับบริษัท เชาว์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในสัดส่วน 70:30 โดยมีวงเงินลงทุนของกลุ่มบริษัทไม่เกิน 2.2 พันล้านเยน หรือราว 600 ล้านบาท

BCP แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 29 มี.ค. มีมติให้เข้าร่วมลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น และจัดตั้งบริษัท กรีนเนอร์ยี แคปปิตอล จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1,000,000 บาท ซึ่งบริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้นทั้งหมด

โดยบริษัท กรีนเนอร์ยี แคปปิตอล จำกัด จะลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตรวมประมาณ 60 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท เชาว์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สัดส่วน 70:30 โดยมีวงเงินลงทุนของบริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี จำกัด ไม่เกิน 2,200 ล้านเยน หรือประมาณ 600 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังจัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย เพื่อให้บริการด้านการบริหารจัดการโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ระหว่างบริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี (บุรีรัมย์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี จำกัด กับบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด สัดส่วน 70:30 โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 100,000 บาท

พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัท ยังได้ยกเลิกวาระการเพิ่มทุนจดทะเบียนที่เตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เนื่องจากได้รับการประสานงานจากบมจ.ปตท.(PTT) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท จึงได้หารือว่าควรเสนอควาระเกี่ยวกับการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในวาระที่ 9,10 และ 11 หลังจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นแล้วเสร็จ

เมื่อปลายเดือนก.พ. ที่ประชุมคณะกรรมการ BCP ได้อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้จำหน่ายออก และให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.69 พันล้านบาท จาก 1.38 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 315.38 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท โดยจะจัดสรรไม่เกิน 275.38 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับประชาชน 137.69 ล้านหุ้น และจัดสรรให้บุคคลในวงจำกัด 137.69 ล้านหุ้น ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลืออีก 40 ล้านหุ้น จะใช้รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์)สำหรับพนักงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ