ADVANC เผย Q3/58 กำไรหด 3.8% yoy และ 13% qoq จากตัดค่าเสื่อม-บาทอ่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 10, 2015 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/58 เนื่องจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจากการลงทุนโครงข่ายที่ยังเพิ่มขึ้น ผนวกกับผลของค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ อยู่ที่ 8,616 ล้านบาท ลดลง 3.8% เทียบกับปีก่อน และ 13% เทียบกับไตรมาสก่อน หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 23.4% ลดลงจาก 25.2% ในไตรมาส 3/57 และ 25.8% ในไตรมาส 2/58

ในไตรมาส 3/58 กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจพหน่าย(EBITDA)อยู่ที่ 17,431 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับปีก่อน แม้ว่าบริษัทจะมีผลขาดทุน 595 ล้านบาทจากแคมเปญการชดเชยค่าเครื่องมือถือเพื่ออัพเกรดลูกค้าให้มาใช้งาน 3G และมีค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น แต่รายได้บริการที่เพิ่มขึ้น ผนวกกับค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลง ยังคงช่วยให้ EBITDA เติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน EBITDA ลดลง 3.5% โดยเป็นผลมาจากแคมเปญการชดเชยค่าเครื่องมือถือดังกล่าว และทำให้ EBITDA margin รวมในไตรมาสนี้ อยู่ที่ 47.4% เพิ่มขึ้น 90bps เทียบกับปีก่อน และคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เมื่อหักผลของธุรกิจมือถือ EBITDA margin จากการบริการยังคงเติบโตขึ้นเป็น 57.4% หรือเพิ่มขึ้น 430bps เทียบกับปีก่อน และ 200bps เทียบกับไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ไตรมาส 3/58 ผลการดำเนินงานของเอไอเอสยังเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่การลดลงตามฤดูกาลส่งผลต่อการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สภาพเศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยที่กดดันการบริโภคในไตรมาสนี้ แต่รายได้จากการให้บริการ(ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย)ยังเติบโตได้ 2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ต่ำกว่าที่ประมาณการทั้งปีเล็กน้อย

ส่วนผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือน เติบโต 3.2% ใกล้เคียงประมาณการสำหรับทั้งปี ที่ประมาณ 3% สำหรับไตรมาสนี้ รายได้จากการให้บริการ(ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) มีรายการพิเศษคือการบันทึกรายได้ จากระบบสัญญาร่วมการงานจำนวน 152 ล้านบาท และในไตรมาส 2/58 มีรายการพิเศษบันทึกรายได้ 318 ล้านบาท ดังนั้น หากไม่รวมรายการพิเศษทั้ง 2 รายการ รายได้จะเติบโตจากปีก่อน 1.4% และลดลง 1.1% จากไตรมาสก่อน

ในไตรมาสนี้เอไอเอสได้เน้นการทำแคมเปญมือถือเพื่อเพิ่มอัตราการใช้เครื่องโทรศัพท์ 3G บนระบบใบอนุญาต 2.1GHz ส่งผลให้มีอัตราขาดทุน 11% แคมเปญดังกล่าวช่วยให้อัตราการใช้เครื่องโทรศัพท์ 3G เพิ่มขึ้นเป็น 67% ในไตรมาสนี้ จาก 49% ในไตรมาส 3/57 ค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ ลดลง 27% จากปีก่อน และลดลง 12% จากไตรมาสก่อน สัดส่วนต้นทุนค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ คิดเป็น 11% ของรายได้การให้ บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย)

ส่วน EBITDA ยังคงแข็งแกร่ง เท่ากับ 17,431 ล้านบาท โดยเติบโตจากปีก่อน 6% และลดลง 3.5% จากไตรมาสก่อน กำไรสุทธิในไตรมาสนี้เท่ากับ 8,616 ล้านบาท ลดลง 3.8% จากปีก่อน และลดลง 13% จากไตรมาสก่อน

การลงทะเบียนเลขหมายระบบเติมเงินทำให้ จำนวนผู้ใช้บริการในระบบเติมเงินลดลงจากปีก่อนและจากไตรมาสก่อน ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการในระบบรายเดือนยังเติบโตอยู่ จำนวนผู้ใช้บริการระบบเติมเงินในไตรมาส 3/58 ลดลง 7% จากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 32.4 ล้านเลขหมาย สาเหตุหลักมาจากประกาศของ กสทช. เรื่อง การลงทะเบียน เลขหมายระบบเติมเงิน ซึ่งผู้ใช้ บริการระบบเติมเงินจะต้องไปลงทะเบียนซิมภายในวันที่ 31 ก.ค.58 ซิมที่ไม่ได้ลงทะเบียนภายในกำหนดจะถูกระงับการใช้งาน

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อรายได้ไม่มากนัก เนื่องจากเลขหมายส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ลงทะเบียนนั้นเป็นเลขหมายที่ไม่มีการใช้งานหรือมีรายได้จากการใช้งานน้อย รายได้จากกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือนยังเติบโตจากปี ก่อนและไตรมาสก่อน ในขณะที่ รายได้จากกลุ่มลูกค้าระบบเติมเงินลดลง

สำหรับประมาณการในปี 58 ยังไม่เปลี่ยนแปลง เอไอเอสยังลงทุนในการพัฒนาเครือข่ายเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา มีการใช้เงินลงทุนไปประมาณ 25,000 ล้านบาท เทียบกับที่ประมาณการไว้ 36,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นงบลงทุน เพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้งานเครือข่าย โดยปัจจุบันมีสถานีฐาน 3G จำนวน 25,100 แห่ง พร้อมรองรับการใช้งานของลู กค้า ส่วนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์บนระบบ สัญญาร่วมการงาน ได้ตัดจำหน่ายโดยเสร็จสิ้นในไตรมาส 3/58


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ