บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เผยกำไรสุทธิในไตรมาส 1/59 ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐลดลง 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ได้รับผลกระทบจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ลดลงมากราว 28% ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง ขณะที่การดำเนินนโยบายลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในไตรมาส 1/59 ลดลง
PTTEP ระบุว่าในไตรมาส 1/59 บริษัทมีกำไรสุทธิ 157 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 5,625 ล้านบาท) ลดลง 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 1,093 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 38,989 ล้านบาท) ลดลง 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ในไตรมาสนี้จะมีปริมาณขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นมาที่ 329,858 บาร์เรล/วัน จาก 315,851 บาร์เรล/วันในไตรมาส 1/58 แต่ในส่วนราคาขายเฉลี่ยลดลงมาที่ 35.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากระดับ 48.95 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในงวดปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง
บริษัทได้ดำเนินนโยบายลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในไตรมาส 1/59 ลดลงเหลือ 907 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1,174 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ลดลงจากค่าเสื่อมราคา ค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายในการบริหาร
PTTEP มองว่าสำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีแนวโน้มสูงขึ้นจากไตรมาสแรกที่ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ระดับ 30.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากอุปทานน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในสหรัฐฯปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประมเมินความต้องการน้ำมันดิบโลกในปีนี้อาจสูงกว่าปีก่อน ประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมอุปสงค์และอุปทานน้ำมันดิบ ประกอบกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และความไม่แน่นอนของมาตรการในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบ ระหว่างกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ รวมถึงความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่อาจไม่ขยายตัวเท่าที่คาดการณ์ ทำให้เป็นปัจจัยสำคัญกดดันราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวสูงขึ้นเพียงกรอบแคบๆในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยทั้งปีของบริษัทที่อิงกับราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่บริษัทยังคงเป้ารักษาปริมาณการขายให้ในระดับเดียวกับปี 58 ที่ประมาณ 322,000 บารเร์ล/วัน
ณ ไตรมาส 1/59 PTTEP มีโครงการและดำเนินกิจกรรมทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 38 โครงการ ใน 11 ประเทศ
ด้านนายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ PTTEP กล่าวว่า เมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 เทียบกับไตรมาส 4/58 พบว่า มีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติ (Recurring Net Profit) 116 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากไตรมาส 4/58 เนื่องจากบริษัทสามารถปรับลดต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) ลงกว่า 10% มาที่ระดับ 28.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากระดับ 35.18 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน
นอกจากนี้ บริษัทได้รับรู้กำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ (Non-Recurring) จำนวน 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้ผลประโยชน์ทางภาษีเงินได้จากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิก่อนสอบทาน 157 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้านฐานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 818 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเงินสดในมือ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ