PTTEP เชื่อมั่นผลศึกษากรณีน้ำมันรั่วจากแหล่งมอนทาราในออสเตรเลียไม่กระทบระบบนิเวศในทะเลติมอร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 8, 2017 09:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) แจ้งว่าตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อว่าทางอินโดนีเซียยื่นฟ้องคดี ต่อศาลในประเทศอินโดนี เซียเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลของแหล่งมอนทารา ในทะเลติมอร์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2552 ต่อ PTTEP และบริษัท PTTEP Australasia (Ashmore Cartier) หรือ PTTEP AA นั้น

PTTEP และ PTTEP AA บริษัทย่อยที่เป็นผู้รับสัมปทานและเป็นผู้ดำเนินการโครงการมอนทารา ได้รับทราบข่าวเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ PTTEP และ PTTEP AA ยังไม่ได้รับเอกสารทางคดี เกี่ยวกับการฟ้องร้องอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่ทราบรายละเอียดของการยื่นฟ้อง และการเรียกร้องค่าเสียหายแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามนับจากเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในโครงการมอนทารา PTTEP AA ได้ดำเนินการแก้ไขเหตุการณ์ และได้ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจนจนได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลออสเตรเลียในการดำเนินการโครงการต่อไปได้ และเมื่อรัฐบาลอินโดนี เซียเรียกร้องให้ PTTEP และ PTTEP AA ชดใช้ค่าเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม PTTEP และ PTTEP AA ได้ประสานงานกับรัฐบาลอินโดนีเซียมาโดยตลอด เพื่อร่วมกันหาข้อยุติและพิสูจน์ความเสียหาย แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ PTTEP และ PTTEP AA มีความเชื่อมั่นในผลการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งควบคุมโดยหน่วยงานรัฐบาลของประเทศออสเตรเลียว่าคราบน้ำมันที่เกิดจากเหตุการณ์ มอนทาราไม่ได้แพร่เข้าสู่ชายฝั่งของประเทศอินโดนีเซียหรือออสเตรเลีย และไม่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในระยะยาวในทะเลติมอร์

ปัจจุบัน บริษัท PTTEP Netherlands Holding Cooperatie U.A. ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีโครงการที่ดำเนินงานอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย 1 โครงการ คือ โครงการ Natuna Sea A โดยถือสัดส่วนร้อยละ 11.5 ซึ่งมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติ ทั้งหมดประมาณ 224 ล้านลู กบาศก์ฟุต/วัน และปริมาณการขายน้ำมันดิบเฉลี่ย ณ ปัจจุบันประมาณ 1,200 บาร์เรล/วัน โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 1 ของปริมาณการขายทั้งหมดของบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ