(เพิ่มเติม) EPG เข้าซื้อกิจการธุรกิจร้านสินค้าตกแต่งรถกระบะในออสเตรเลีย 176.16 ลบ.คาดแล้วเสร็จ 31 ม.ค.61

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 12, 2017 10:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.60 Aeroklas Australia Pty. Ltd. (ARKAU) (จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศออสเตรเลีย) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย (บริษัทถือหุ้นผ่าน บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด (ARK) ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน ARKAU) ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อหุ้นของ Flexiglass Challenge Pty. Ltd. (Flexiglass) ในสัดส่วน 100% ของ Flexiglass กับ Fleetwood Corporation Limited (Fleetwood) ในราคาประมาณ 7 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือเป็นจำนวนเงินประมาณ 176.16 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 20 พ.ย.60 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับ 25.1661 บาท)

ภายหลังการเข้าลงนามสัญญาซื้อขายดังกล่าว ARKAU จะเข้าทำการตรวจสอบรายการ สินค้าคงคลัง บัญชีลูกหนี้ และ บัญชีเจ้าหนี้ เพื่อปรับปรุงราคาซื้อขายก่อนการชำระราคาซื้อขายหุ้นดังกล่าว

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 6/2560 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 29 พ.ย.60 ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้ ARKAU เข้าซื้อหุ้นของ Flexiglass และลงนามในสัญญาซื้อขายได้ อย่างไรก็ตาม การตกลงเข้าซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบังคับก่อนที่คู่สัญญาจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ซึ่งคาดว่าการซื้อขายจะแล้วเสร็จภายใน 31 ม.ค.61

ปัจจุบัน Flexiglass ประกอบกิจการร้านจำหน่ายสินค้าตกแต่งรถกระบะ ประเภทขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ในประเทศออสเตรเลีย โดยมี distributors และ dealers มากกว่า 100 แห่ง อีกทั้ง มีสาขาของตนเองรวม 5 แห่ง

การเข้าลงทุนดังกล่าวจะสามารถเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับ บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด และสามารถจัดจำหน่ายสินค้าของ Flexiglass ผ่านทาง TJM Product Pty. Ltd. / ARKAU และ ARK โดย ARK จะดำเนินการเพิ่มทุนใน ARKAU จำนวน 10 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (คิดเป็นเงินโดยประมาณ 251.661 ล้านบาท) เพื่อให้ ARKAU ใช้เป็นเงินทุนและเงินทุนหมุนเวียน ในการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว

รศ.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EPG กล่าวว่า ที่ผ่านมามี M&A อยู่หลายดีลที่ได้เข้ามานำเสนอกับบริษัทฯ ทั้งธุรกิจฉนวน/ ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ซึ่งดีลต่างๆ มีทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการและได้ปฎิเสธไป ซึ่งการตัดสินใจซื้อกิจการใดนั้น บริษัทได้พิจารณาด้วยความระมัดระวังรอบคอบทั้งด้านขนาดของกิจการและราคาที่จะเข้าไปลงทุนต้องมีความเหมาะสม สามารถสนับสนุนธุรกิจหลักได้ดี และสามารถต่อยอดให้กับธุรกิจได้

ส่วนเงินที่นำมาลงทุนใน M&A นั้น จะนำมาจากกำไรสะสมของบริษัทฯส่วนหนึ่ง และจากการกู้ยืม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) 0.29 เท่า นอกจากนี้ บริษัทได้รับอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท จากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 59/60 เพื่อเพิ่มช่องทางการระดมทุนของบริษัท ให้มีเครื่องมือในการระดมทุนซึ่งมีต้นทุนทางการเงินต่ำเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ