นางสาวนราวดี วรวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฟู้ด แคปปิตอล (FC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ FC-W1 และ FC-W2 ครั้งที่ 1/2561 มีมติอนุมัติให้แก้ไขเงื่อนไขการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่กำหนดในข้อกำหนดข้อ 4.2 และข้อ 4.3 ในกรณีที่บริษัทฯ ได้เสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ในราคาที่คำนวณได้ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อ 4.4 ในกรณีที่บริษัทจ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท และข้อ 4.5 ในกรณีบริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นเงินเกินกว่าอัตรา 80% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้ สำหรับการดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีใด ๆ ระหว่างอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ
โดยข้อกำหนดสิทธิฉบับปรับปรุงดังกล่าวมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้ เมื่อบริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือประชาชนทั่วไป และ/หรือบุคคลในวงจำกัดในราคาต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ที่คำนวณได้ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัท โดยจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Issues) และ/หรือวันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (แล้วแต่กรณี)
ทั้งนี้ เมื่อบริษัทเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใด ๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือบุคคลในวงจำกัด โดยที่หลักทรัพย์นั้นให้สิทธิแก่ผู้ถือหลักทรัพย์ในการใช้สิทธิแปลงสภาพหรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ อาทิ หุ้นกู้แปลงสภาพหรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ โดยที่ราคาต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ เพื่อรองรับสิทธิดังกล่าวที่คำนวณได้ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัท โดยจะมีผลบังคับทันที ตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญไม่ได้รับสิทธิการจองซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ใดๆ ข้างต้นที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพหรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XR หรือ XW) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Issues) และ/หรือวันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพหรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปและ/หรือกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดแล้วแต่กรณี
"หลังกลุ่มทุนใหม่ ซึ่งนำโดยคุณสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ และคุณสุรเชษฐ์ ชัยปัทมานนท์ Backdoor Listing แบบเป็นมิตร พร้อมกับเตรียมพลิกโฉมธุรกิจจากอาหาร ไปทำธุรกิจพลังงานทดแทน ที่ประเมินแล้วพบว่ามีศักยภาพดีสามารถสร้างรายได้และกระแสเงินสดให้กับบริษัท ช่วยเปลี่ยนแปลงปัจจัยพื้นฐานให้แข็งแกร่ง มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไร พร้อมที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในอนาคต" นางสาวนราวดี กล่าว
FC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณะกรรมการอนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ที่จะออกใหม่ของบริษัท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Warrant RO) จากเดิมที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2560 ได้มีมติอนุมัติไว้ เพื่อเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติต่อไป โดยจากเดิมจะออกหุ้นเพื่อรองรับการแปลงสภาพ FC-W5 ไม่เกิน 3.02 พันล้านหุ้น เป็นไม่เกิน 4.48 พันล้านหุ้น อัตราการใช้สิทธิ จากเดิม 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1.065 หุ้น เป็น 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1.580 หุ้น ที่ราคาใช้สิทธิจากเดิมหุ้นละ 1.408 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท
สำหรับ FC-W6 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นที่จะออกเพื่อรองรับการแปลงสภาพ และไม่ได้เปลี่ยนแปลงอัตราการใช้สิทธิ ที่ 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้น แต่เปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ จากเดิมหุ้นละ 2 บาท เป็นหุ้นละ 1.077 บาท
พร้อมทั้งพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงจำนวนเพิ่มทุนจดทะเบียน จากเดิมที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2560 โดยเป็นการออกหุ้นใหม่ 2.27 หมื่นล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท แบ่งเสนอขายบุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 1.49 หมื่นล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.27 บาท (ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ที่อยู่หุ้นละ 1 บาท) รวมเป็นมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 4.02 พันล้านบาท ,จัดสรรจำนวน 7.32 พันล้านหุ้น ใช้รองรับการแปลงสภาพ Warrant RO ส่วนหุ้นที่เหลือ 541.39 ล้านหุ้น ใช้รองรับการปรับสิทธิแปลงสภาพของ FC-W1 และ FC-W2
ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 2.56 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ 2.77 พันล้านบาท
FC ระบุด้วยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท รับทราบความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามแผนการรวมธุรกิจของบริษัท ในธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมดและจัดสรรหลักทรัพย์ ได้แก่ 1. บริษัท พีอาร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (PRGD) ซึ่งเป็น บริษัทจำกัดที่จัดตั้งขึ้นใหม่ที่ถือหุ้นโดย บริษัท ไพร์ม โรด แคปปิตอล จำกัด (PRC) นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ (นายสมประสงค์) นายสุรเชษฐ์ ชัยปัทมานนท์ (นายสุรเชษฐ์) และ บริษัท Prime Road Tech Inter Limited (PRTI) โดย PRGD จะนำหุ้นของบริษัท ไพร์ม โรด อัลเทอร์เนทีฟ จำกัด (PRA) มาชำระเป็นค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ที่จัดสรรให้แก่ตนแทนการชำระด้วยเงินสด (Pay in Kind) 2. บริษัท ไพร์ม โรด อัลเทอร์เนทีฟ จำกัด (PRA) PRA ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นใน บริษัท ไพร์ม โรด กรุ๊ป จำกัด (PRG) และบริษัท ไพร์ม เอ็นเนอร์ยี่ แคปปิ ตอล จำกัด (PEC) และ3 บริษัท ไพร์ม เอ็นเนอร์ยี่ แคปปิตอล จำกัด (PEC)
พร้อมกันนี้จะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติแผนการรวมธุรกิจของบริษัทกับ PRGD โดยการโอนทรัพย์สินและหนี้สินทั้งปวงของ PRGD ซึ่งได้แก่ หุ้นทั้งหมดใน PRA ที่ PRGD ถืออยู่ ให้แก่บริษัท โดยการ EBT ซึ่งจะประกอบด้วยทรัพย์สินและหนี้สินทั้งปวงของ PRGD รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสิทธิ หน้าที่ ภาระ ข้อผูกพันต่าง ๆ และความรับผิดใด ๆ ที่ PRGD มีหรือพึงมี ณ วันรับโอนกิจการ (ธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมด) นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังรับทราบความคืบหน้าการเจรจายกร่างสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน คาดว่าจะลงนามภายในวันที่ 28 ก.พ.61 รวมถึงข้อตกลงและสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมด และจัดสรรหลักทรัพย์ และรับทราบความคืบหน้าการจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นคำขอให้พิจารณารับหลักทรัพย์ใหม่ (Relisting) กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่าจะยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 31 มี.ค.61
คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการเปลี่ยนชื่อบริษัท จากบมจ.ฟู้ด แคปปิตอล เป็นบมจ.ไพร์ม โรด เพาเวอร์ โดยใช้ชื่อย่อว่า PRIME