ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,008.77 จุด ลดลง 77.64 จุด หรือ -0.48% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,800.90 จุด ลดลง 4.91 จุด หรือ -0.27% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,045.26 จุด ลดลง 14.63 จุด หรือ -0.36%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน เข้ารับตำแหน่งประธานเฟดต่อจากนายเบน เบอร์นันเก้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันหยุดปีนี้ หลังจากสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ (NRF) เปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ลดลงในช่วงสุดสัปดาห์ของเทศกาลขอบคุณพระเจ้า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 407.02 ดอลลาร์ ซึ่งลดลงจาก 423.55 ดอลลาร์ในปีก่อน ขณะที่การใช้จ่ายทั้งหมดในช่วงวัดหยุดดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 5.74 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ปรับตัวผันผวนเนื่องจากรายงานดังกล่าว โดยหุ้นอาเมซอน ปรับตัวลง 0.34% ขณะที่หุ้นอีเบย์ร่วงลง 1.64%
หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ร่วงลง 4% หลังจากราคาทองคำปรับตัวลดลง ขณะที่หุ้น 3M ดิ่งลง 4.4% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 57.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนเม.ย.2554 จากระดับ 56.4 ในเดือนต.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวที่สดใสในภาคการผลิตยังคงมีความต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2556
ขณะที่มาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะ 54.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากระดับ 51.8 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าการประเมินเบื้องต้นที่ 54.3