ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดลบ เหตุนักลงทุนวิตกผลประกอบการเอกชนอ่อนแอ

ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 28.13 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 16,396.72 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.01 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 1,860.30 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 6.72 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 4,079.51 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ตลาดหุ้นและตลาดการเงินสหรัฐจะปิดทำการในวันศุกร์นี้ เนื่องในวัน Good Friday

นอกจากนี้ ผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชนบางแห่งส่งผลให้นักลงทุนเทขาย โดยหุ้นคลาส เอ ของกูเกิล ร่วงลง 3.1% หลังจากกูเกิลรายงานว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นไอบีเอ็มร่วงลง 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ลดลง 3.9% แตะระดับ 2.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.29 หมื่นล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 3.44% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 74 เซนต์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ระดับ 48 เซนต์ต่อหุ้น ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดตัวขึ้น 1.26% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ารายได้สุทธิไตรมาสแรกปีนี้ ลดลง 8% สู่ระดับ 9.33 พันล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 เม.ย. เพิ่มขึ้น 2,000 ราย แตะที่ 304,000 ราย แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 315,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง