ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 21.38 จุด วิตกเฟดขึ้นดบ.เร็วกว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 27, 2014 06:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) หลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,846.13 จุด ลดลง 21.38 จุด หรือ -0.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,379.05 จุด ลดลง 0.71 จุด หรือ -0.02% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,957.22 จุด ลดลง 2.31 จุด หรือ -0.12%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากนายบุลลาร์ดกล่าวให้สัมภาษณ์กับ FOX Business เมื่อวานนี้ว่า เขาคาดว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า และคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายระยะยาวของเฟดที่ระดับ 2% ภายในปีนี้

การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวของนายบุลลาร์ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดลดช่วงลบในตอนบ่าย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาดังกล่าวจริงหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซาของสหรัฐ

โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

ทั้งนี้ ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเป็นหนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจที่ตลาดการเงินจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดนั้น อาจทำให้มีการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ลงอีก หลังจากที่เมื่อวานนี้ ทางการสหรัฐได้ปรับลดการประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกเป็น หดตัวลง 2.9% ซึ่งมากกว่าในการประมาณการก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าหดตัวลงเพียง 1%

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มิ.ย. ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 312,000 ราย ซึ่งปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 310,000 ราย หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ร่วงลง 7.2% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการรายไตรมาสจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.08-1.16 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ขณะที่หุ้นฟิลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชันแนล ดิ่งลง 2.7% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการลงสู่ระดับ 4.87-4.97 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.09-5.19 ดอลลาร์ต่อหุ้น

หุ้นอัลโค อิงค์ ดีดตัวขึ้น 2.7% เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า อัลโคจะซื้อกิจการบริษัทเฟิร์ธ ริกซอน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนด้านอากาศยานรายใหญ่ของอังกฤษ มูลค่ารวม 2.5 พันล้านดอลลาร์ทั้งในรูปเงินสดและหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ