ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 22.02 จุด ตลาดจับตาประชุมเฟด,ข้อมูลศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 29, 2014 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยแม้ว่าดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวขึ้น แต่ดัชนี NASDAQ กลับปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจอีกหลายรายการที่สหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,982.59 จุด เพิ่มขึ้น 22.02 จุด หรือ +0.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,444.91 จุด ลดลง 4.65 จุด หรือ -0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,978.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด หรือ +0.03%

ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครน หลังจากมีรายงานว่าสหภาพยุโรป (อียู) วางแผนที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียในสัปดาห์นี้ อีกทั้งสหรัฐรุนแรงในฉนวนกาซาก็ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อตลาดเช่นกัน

ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) ที่ระบุว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายประจำเดือนมิ.ย. ลดลง 1.1% สู่ระดับ 102.7 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าน่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 6.0% แตะ 103.8 ในเดือนพ.ค.

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 61.0 ในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจข้อมูลในเดือนต.ค.2552 หรือในรอบสี่ปีครึ่ง และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลงแตะ 59.8

หุ้นไทสัน ฟู๊ดส์ ปรับตัวขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทผลิตเนื้อรายใหญ่ของสหรัฐแห่งนี้เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะตัดขายธุรกิจสัตว์ปีกในเม็กซิโกและบราซิล

หุ้นคัมมินส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ร่วงลง 3.2% แม้ว่าบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ก็ตาม

นักลงทุนจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ซึ่งแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ คาดว่าจีดีพีสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งถึง 3.5% หลังจากที่หดตัวลง 2.9% ในไตรมาสแรก อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างผิดปกติในสหรัฐ

ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 250,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ